พลังแห่งตัวหนังสือ : 3 เหตุผล ที่ทำให้นักธุรกิจระดับโลกกลายเป็นนักเขียน

พลังแห่งตัวหนังสือ : 5 เหตุผล ที่ทำให้นักธุรกิจระดับโลกกลายเป็นนักเขียน


มหาเศรษฐีระดับโลก เขียนหนังสือขายทำไม ?

Phil Knight นักธุรกิจชาวอเมริกัน เขาเป็นผู้ก่อตั้งและประธานบริษัท Nike ซึ่งผลิตสินค้าเกี่ยวกับอุปกรณ์กีฬา รวมถึงเสื้อผ้าและรองเท้าคุณภาพสูง สินค้าของเขามีชื่อเสียงโด่งดังไปทั่วโลก ธุรกิจเติบโตไม่มีหยุด จนทำให้ชายคนนี้กลายเป็นมหาเศรษฐีผู้มีทรัพย์สินกว่า 38.9 พันล้านดอลลาร์สหรัฐในปัจจุบัน

นอกจากจะเป็นต้นแบบเรื่องธุรกิจแล้ว เขายังเป็นนักเขียนมืออาชีพอีกด้วย 

Phil Knight ได้จับปากกาเขียนหนังสือเล่มหนึ่ง ซึ่งตีพิมพ์ครั้งแรกในปี 2016 โดยใช้ชื่อว่า “Shoe Dog: A Memoir by the Creator of Nike” เพื่อเล่าเรื่องราวชีวิตและเส้นทางธุรกิจที่ไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบของเขา ผู้อ่านจะได้เห็นจุดเริ่มต้นในการก่อตั้งบริษัท Nike ความยากลำบาก อุปสรรค จุดเปลี่ยน และการเจริญเติบโตในโลกธุรกิจ 

การเลือกใช้คำที่มีพลัง เนื้อหาที่มีคุณภาพ วิธีการเขียนที่เฉียบขาด กระแสที่มาแรงไม่มีตก ทำให้หนังสือเล่มนี้ได้รางวัล New York Times Best Seller ไปอย่างไม่มีข้อกังขา 

แม้คุณจะไม่เคยซื้อหรือทดลองสินค้าของ Nike เลยสักครั้ง แต่ถ้าได้ลองอ่านหนังสือ Shoe Dog: A Memoir by the Creator of Nike จนจบ ผมมั่นใจเลยว่าคุณจะหาทางซื้อรองเท้า Nike มาครอบครองสักคู่ โดยไม่รู้สึกเสียดายเงินเลยแม้แต่น้อย 

“แค่รู้เทคนิคการเขียน โลกทั้งใบก็จะกลายเป็นของคุณ”

และนี่คือ 3 เหตุผล ที่นักธุรกิจติด Top ระดับโลกอย่าง Phil Knight ยังต้องลงมือเขียนหนังสือ

ข้อที่ 1 | โชว์ศักยภาพ สร้างความเชื่อมั่นผ่านตัวหนังสือ

ความเชื่อมั่นในแบรนด์ (Brand trust) เป็นปัจจัยสำคัญในการสร้างฐานลูกค้าที่มั่นคง ซึ่งมีผลต่อผลความสำเร็จและความมั่นคงของธุรกิจ ยิ่งลูกค้ามีความเชื่อมั่นใน “คุณภาพ” ของสินค้าและบริการมากเท่าไร ธุรกิจยิ่งมีโอกาสเติบโตอย่างก้าวกระโดดมากขึ้นเท่านั้น และหนังสือ Shoe Dog: A Memoir by the Creator of Nike ของ Phil Knight ที่เขียนบอกเล่าเรื่องราวการพัฒนาสินค้าแต่ละชิ้น ก็สามารถหน้าที่นั้นได้อย่างสมบูรณ์แบบเลยทีเดียว 

ในหนังสือได้พูดถึงการทดลองและตรวจสอบคุณภาพ ซึ่งเป็นขั้นตอนสำคัญในกระบวนการผลิต เพื่อให้แน่ใจว่าสินค้าที่ออกมาจะมีความแข็งแรงทนทาน Nike ให้ความสำคัญกับการพัฒนาและปรับปรุงสินค้าอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้สามารถตอบสนองต่อความต้องการและความพึงพอใจของลูกค้าได้ 

อีกทั้งยังมีเป้าหมายที่จะนำเสนอรองเท้ากีฬารูปแบบใหม่ ๆ ที่ไม่เคยมีใครผลิตมาก่อน มีการนำเทคโนโลยีและวัสดุที่ทันสมัยมาใช้ ซึ่งทำให้มีรองเท้าหลาย ๆ รุ่นของ Nike ที่กลายเป็นกระแสโด่งดังจากรูปลักษณ์และความทนทาน หลายรุ่นสวยคลาสสิก แม้ผ่านไปนานนับ 10 ปี ก็ยังมีคนตามหาและพูดถึงอยู่เรื่อย ๆ

การเขียนหนังสือ Shoe Dog จึงช่วยผลักดันให้ Nike กลายเป็นแบรนด์ที่มีความน่าเชื่อถือ และยังช่วยส่งเสริมให้ลูกค้าเกิดความมั่นใจ กล้าซื้อสินค้าจากแบรนด์นี้อีกด้วย

ข้อที่ 2 | ขยายฐานลูกค้า สร้างภาพลักษณ์แบรนด์ด้วย Story Telling เล่าประสบการณ์จริง มัดใจคนทั้งโลก

หนังสือ Shoe Dog เป็นหนังสือที่เต็มไปด้วยแรงบันดาลใจและความมุ่งมั่นในการตามฝัน คนที่ได้อ่านหนังสือเล่มนี้ไม่มีทางมันลงง่าย ๆ และจะกลายเป็นแฟนพันธุ์แท้ของแบรนด์ Nike ไปโดยไม่รู้ตัว

ลำดับการเขียนเล่าเรื่องของ Phil Knight ทำให้ผู้อ่านได้เห็นภาพความเป็นมาของแบรนด์ ซึ่งมีจุดเริ่มต้นมาจากความฝันของเด็กหนุ่มฐานะกลาง ๆ ที่หลงรักการวิ่งและการท่องเที่ยว แม้จะทำตามความฝันที่อยากเป็นนักกีฬาอาชีพไม่สำเร็จ แต่ด้วยความคลั่งไคล้ในกีฬาและความรู้เรื่องธุรกิจ ทำให้ในปี 1964 เขาเกิดไอเดีย อยากนำเข้ารองเท้าวิ่งจากประเทศญี่ปุ่นอย่าง Onitsuka ที่มีคุณภาพสูงแต่ราคาจับต้องได้เข้ามาขายในอเมริกา เพื่อแข่งกับแบรนด์ดังอย่าง Adidas

แต่การแข่งขันกับแบรนด์เก่าเจ้าถิ่นที่อยู่มานาน ไม่ใช่เรื่องง่ายเลยสักนิด เขาต้องเจอความยากลำบาก และอุปสรรคมากมาย ทั้งเรื่องเงิน เรื่องการตลาด เรื่องการผลิตสินค้า แต่ด้วยความมุ่งมั่นและความพยายามต่อยอดไอเดียใหม่ ๆ ทำให้ Nike กลายเป็นแบรนด์ที่เติบโตอย่างมั่นคงในโลกธุรกิจได้ และกลายเป็นคู่แข่งคนสำคัญของ Adidas มาจนถึงทุกวันนี้ 

การเขียนเล่าเรื่องของ Phil Knight นอกจากจะสร้างแรงบันดาลใจ และช่วยจุดไฟให้นักธุรกิจรุ่นใหม่ด้วยแนวคิดที่ยอดเยี่ยมแล้ว ยังทำให้คนทั่วโลกที่ได้หยิบหนังสือเล่มนี้ขึ้นมาอ่าน รู้สึกหลงใหลและซาบซึ้งไปกับเรื่องราว จนทำให้เกิดความรักต่อแบรนด์ Nike โดยไม่รู้ตัว และยังช่วยส่งต่อเรื่องราวภาพจำดี ๆ เหล่านี้ไปไกลทั่วโลก ทำให้มีลูกค้าใหม่ ๆ เข้ามาอีกเพียบ 

พลังแห่งตัวหนังสือ : 3 เหตุผล ที่ทำให้นักธุรกิจระดับโลกกลายเป็นนักเขียน

ข้อที่ 3 | ทำการตลาดผ่านหนังสือ ไม่ต้องเสียเงินโฆษณา แถมได้ค่าลิขสิทธิ์ยาว ๆ เหมือน “เสือนอนกิน” 

การเขียนหนังสือสำหรับคนทำธุรกิจ มีแต่ได้กับได้ เท่านั้น

แม้ปัจจุบันบริษัท Nike จะเติบโตจนกลายเป็นอันดับต้น ๆ ของโลกไปแล้ว แต่เรื่องเทคนิคการตลาดและการทำโฆษณาก็นับว่ายังมีความจำเป็นอย่างมากสำหรับการขายสินค้าในยุคที่มีคู่แข่งหน้าใหม่เกิดขึ้นทุกวัน ซึ่งแน่นอนว่าการโฆษณาหรือจ้างพรีเซนเตอร์ดัง ๆ ก็ต้องทุ่มเงินใช้งบประมาณไม่น้อย

เพราะฉะนั้น การขยายช่องทางให้คนหมู่มากรู้จัก และทำให้ตัวเองยังคงอยู่ในกระแสเป็นที่สนใจอยู่ตลอดเวลาได้ ไม่ว่าจะผ่านไปกี่ยุคกี่สมัย เครื่องมือที่ดีที่สุดก็คือหนีไม่พ้นการเขียนหนังสือ เพื่อแบ่งปันเรื่องราวและประสบการณ์ตรง เพื่อให้คนทุกเพศทุกวัยรู้จักความเป็นมาของบริษัท Nike มากยิ่งขึ้น

หนังสือคือเครื่องมือที่ไม่มีวันตกยุค

ทุกครั้งที่มีใครสักคนหยิบขึ้นมาอ่าน ทุกครั้งที่มีคนดังหยิบหนังสือมาสรุปเนื้อหาหรือรีวิวลงในโลกโซเชียลมีเดียล Nike ก็จะได้รับโปรโมทแบรนด์และโฆษณาสินค้าไปในตัวด้วยทุกครั้ง

แม้เขาจะไม่ได้พูดขายสินค้ากันโต้ง ๆ แต่ผู้อ่านที่ชื่นชอบเรื่องราวในหนังสือมาก ๆ ก็มักจะตามไปค้นหาสินค้าที่ผู้เขียนเคยพูดถึง เช่น รองเท้าคู่ไหนดังข้ามยุค เสื้อตัวไหนที่นักกีฬาชื่อดังเคยสวมใส่ สินค้าชิ้นแรกที่เปิดตัวคืออะไร พูดได้เลยว่าเป็นการตลาดที่ “คุ้มมาก”


นอกจากนี้ หนังสือเรื่อง Shoe Dog: A Memoir by the Creator of Nike ก็ไม่ได้ขายเฉพาะฉบับตีพิมพ์เท่านั้น แต่ยังมีสินค้าในรูปแบบ E-Book หรือหนังสืออิเล็กทรอนิกส์ เพื่อเจาะกลุ่มเป้าหมายที่ชอบหาข้อมูลผ่านทางโทรศัพท์มือถือหรือแท็ปเล็ตด้วย ซึ่งเป็นตัวช่วยเพิ่มยอดขาย กระจายกลุ่มลูกค้า ที่ทำให้หนังสือเล่มนี้โด่งดังมากขึ้นกว่าเดิม 

Phil Knight เขียนครั้งเดียวจบ เรียบเรียงครั้งเดียวคุ้ม

ได้รับเงินค่าลิขสิทธิ์หนังสือไปตลอดชีวิต นอกจากจะได้แบ่งปันความรู้และประสบการณ์ดี ๆ ให้กับผู้ประกอบการรุ่นใหม่แล้ว ยังเป็นอีกหนึ่งช่องทางทำเงินเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่ไม่ต้องเหนื่อยลงมือทำตลอดเวลา แต่กลับมี Passive Income ที่ยั่งยืน และยังช่วยส่งเสริมให้ภาพลักษณ์ของแบรนด์ดูเข้มแข็งและน่าไว้วางใจอีกด้วย 


โลกใบนี้เป็นโลกของผู้คนที่เขียนได้ดี เล่าเรื่องได้น่าฟัง

ในเส้นทางของชีวิตของเราที่ผ่านมา เชื่อว่าทุกคนต้องประสบพบเจอเรื่องราวระหว่างทางมากมาย ทั้งอดทน ฝ่าฟัน กัดฟันสู้ เเละประสบความสำเร็จ จนกระทั่งเราอยากเเบ่งปันเรื่องราวประสบการณ์ที่ทั้งดีเเละไม่ดีออกมาเพื่อให้เป็นประโยชน์เเก่ทุกคน

เเละหนึ่งในรูปเเบบการถ่ายทอด ก็คือการบอกเล่าเรื่องราวต่าง ๆ ออกมาเป็น ตัวหนังสือ เเต่หลาย ๆ คนกลับไม่กล้าที่จะเขียนมันออกมา เพราะกลัวว่าจะเขียนได้ไม่ดี เขียนได้ไม่โดน หรือกลัวว่าไม่มีใครสนใจ

. . .

➤ E-Book “เส้นทางสู่การเป็นนักเขียนมืออาชีพ”

จะช่วยให้ทุกคนก้าวผ่านความกลัวเเละเริ่มต้นเขียน

➤ เนื้อหาที่ท่านจะได้รับจาก E-Book เล่มนี้

บทที่ 1: กระบวนการเขียน กล่าวถึงขั้นตอนต่าง ๆ ของการเขียน ตั้งแต่การกำหนดวัตถุประสงค์ การรวบรวมข้อมูล การวางแผน การเขียนร่างแรก และการแก้ไขปรับปรุง

บทที่ 2: กลยุทธ์การเขียนเชิงลึก กล่าวถึงเทคนิคการเขียนที่มีประสิทธิภาพสำหรับประเภทต่างๆ ของการเขียน เช่น โครงเรื่อง ตัวละคร ฉาก อารมณ์ และน้ำเสียง

บทที่ 3: ภาษา กล่าวถึงการใช้ภาษาอย่างมีประสิทธิภาพเพื่อสื่อสารความคิดและความรู้สึก

. . .

เเจกฟรี!! เเจ้งว่า “ebookครูม้อค”
ที่ลิงก์นี้ได้เลย ➤  https://lin.ee/QOJZpRO 


โดย : ครูพี่ม้อค ธวัชชัย พืชผล
เจ้าของสำนักพิมพ์ 7D Book & Digital

Scroll to Top