เคล็ดลับปั้นยอดขายจากอสังหาริมทรัพย์ทำเงิน 300 ล้านบาท ในระยะเวลาแค่ 3 ปี

เคล็ดลับปั้นยอดขายจากอสังหาริมทรัพย์ ทำเงิน 300 ล้านบาท ในระยะเวลาแค่ 3 ปี

เคล็ดลับปั้นยอดขายจากอสังหาริมทรัพย์ ทำเงิน 300 ล้านบาท ในระยะเวลาแค่ 3 ปี

จากพนักงานประจำรายได้หลักหมื่นต้น ๆ ก้าวเข้าสู่วงการอสังหาริมทรัพย์ด้วยอาชีพนายหน้า ลับคมความรู้ ฝึกฝนทักษะ จนมาเป็นนักลงทุน Flipping แบบเต็มตัว และคว้ากำไรหลักร้อยล้านได้ในปัจจุบัน “อาจารย์บี ภิรณา ตันธวุทธ” ทำได้อย่างไร มีเทคนิคข้อไหนที่เรายังไม่รู้ มาดูกัน !

ช่วงแรกของการทำงานประจำ อาจารย์บีเป็นพนักงานธนาคารเงินเดือนประมาณ 11,500 บาท ดูแลเรื่องรับฝากถอนโอน และได้เรียนรู้เกี่ยวกับเรื่องของ “การขาย” เมื่อมีความรู้มากขึ้น ก็ได้รับการเลื่อนตำแหน่งจากเคาน์เตอร์รับฝากถอนโอน ได้ไปนั่งที่เคาน์เตอร์เปิดบัญชี ในช่วงเวลานั้น อาจารย์บีตั้งเป้าหมายว่าจะต้องประสบความสำเร็จในสายงานธนาคารให้ได้

แต่การมีรายได้ทางเดียว ไม่มีทางมั่นคงมากไปกว่าเดิมได้ แม้จะได้เลื่อนตำแหน่งปรับเงินเดือนบ้าง แต่ด้วยภาระค่าใช้จ่ายที่เติบโตตามไปด้วย ทำให้อาจารย์บีเริ่มมองหาช่องทางทำเงินใหม่

อาจารย์บีลองลงทุนทุกอย่าง ไม่ว่าจะเป็นหุ้น ทองคํา และอย่างอื่นอีกมากมาย แต่สุดท้ายก็มาตกผลึกได้ว่า “อสังหาริมทรัพย์” นี่แหละ คือการลงทุนที่ค่อนข้างมั่นคงที่สุด เราสามารถนอนหลับเต็มตาได้ โดยไม่ต้องกังวลว่าวันพรุ่งนี้สถานการณ์จะเป็นอย่างไร เพราะอสังหาริมทรัพย์มีแต่จะเติบโตและราคาสูงขึ้นทุกวัน

จนกระทั่งวันหนึ่งอาจารย์บีได้ถูกทาบทามให้ไปเป็นนายหน้าช่วยขายอสังหาริมทรัพย์ โดยเจ้าของโครงการเสนอให้ค่าคอมมิชชัน 3% ของราคาห้องที่จะขาย เมื่อลองคำนวณดูแล้วก็พบว่าได้เงินมากกว่าการทำงานประจำหลายเท่า นี่จึงเป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้อาจารย์บีได้เรียนรู้เรื่องอสังหาฯ ได้เพิ่มทักษะการขาย และเจอประสบการณ์ในหลาย ๆ รูปแบบ มีทั้งขาขึ้น ขาลง เจอความผิดพลาด ได้บทเรียนหลายอย่าง และเติบโตมากขึ้นในวงการอสังหาฯ

หนึ่งในการเติบโตครั้งยิ่งใหญ่ คือการขยับขยายเส้นทางอสังหาฯ โดยเปลี่ยนจากการทำอาชีพนายหน้าที่ได้รับค่าคอมมิชชันเพียง 3% หันมาเป็นนักลงทุนอสังหาริมทรัพย์ Flipping ด้วยความตั้งใจว่าจะทำกำไรให้ได้มากกว่าเดิม

การ Flip อสังหาริมทรัพย์ คืออะไร ?

การ Flip อสังหาริมทรัพย์ คือ การลงทุนอสังหาริมทรัพย์แบบระยะสั้น โดยซื้อสินทรัพย์มาปรับปรุงซ่อมแซมให้อยู่ในสภาพดี แล้วขายต่อเพื่อทำกำไรในเวลาอันสั้น โดยปกติจะใช้เวลาไม่เกิน 1 ปี ซึ่งในประเทศไทยนิยมลงทุนกับบ้านและคอนโดมิเนียม เพราะเป็นสินทรัพย์ที่มีราคาไม่สูงมากนัก และสามารถปล่อยขายได้ง่าย

การ Flip อสังหาริมทรัพย์มีข้อดีคือ สามารถสร้างกำไรได้อย่างรวดเร็ว แต่ก็มีความเสี่ยงเช่นกัน เนื่องจากต้องอาศัยความรู้และประสบการณ์ในการเลือกซื้อสินทรัพย์ การประเมินต้นทุนในการปรับปรุงซ่อมแซม และการวิเคราะห์ตลาดอสังหาริมทรัพย์ ดังนั้นจึงควรหาข้อมูลและศึกษาจากผู้เชี่ยวชาญก่อน

“การ Flip บ้านหลังแรก ยากมาก แต่ถ้าผ่านหลังแรกไปแล้วจะง่ายมาก และได้กำไรมากขึ้นด้วย”

นี่คือ 9 ขั้นตอน ปั้นยอดขายจากการ Flip อสังหาริมทรัพย์ จนทำเงิน 300 ล้านบาทได้ในระยะเวลาแค่ 3 ปี ฉบับอาจารย์บี ภิรณา ตันธวุทธ

ขั้นตอนที่ 1 การวิเคราะห์ทำเล

หากวิเคราะห์และมองทำเลไม่เป็น ก็เปรียบเสมือนการสร้างข้อผิดพลาดตั้งแต่แรก เพราะทำเลที่ไม่ดีอาจทำให้เข้าถึงลูกค้าได้ยาก ขายออกช้า และมีโอกาสได้กำไรน้อย

ขั้นตอนที่ 2 การวิเคราะห์ราคา

การวิเคราะห์ราคาของโครงการอสังหาริมทรัพย์ควรพิจารณาทำเลที่ตั้งควบคู่ไปด้วย เพื่อให้ได้ข้อสรุปที่ถูกต้องว่าราคานั้นเหมาะสมหรือไม่

ขั้นตอนที่ 3 การเจรจา

การเจรจาต่อรองเปรียบเสมือนงานศิลปะซึ่งเป็นทักษะที่จำเป็นอย่างยิ่ง หลักการเจรจานั้นขึ้นอยู่กับความสามารถในการโน้มน้าวและการเข้าใจความต้องการของคู่สนทนา นั่นหมายความว่า คุณจะได้ทรัพย์ในราคาถูกหรือแพงนั้น ล้วนขึ้นอยู่กับการเจรจาทั้งสิ้น

ขั้นตอนที่ 4 การวิเคราะห์กลุ่มลูกค้า

การวิเคราะห์กลุ่มลูกค้าอย่างละเอียดจะช่วยให้เราเข้าใจลูกค้าได้มากยิ่งขึ้น และสามารถออกแบบกลยุทธ์การตลาดที่ตรงกับความต้องการของลูกค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ เช่น หากเราพบว่ากลุ่มลูกค้าเป้าหมายของเราคือเด็กจบใหม่ที่มีกำลังซื้อน้อย เราอาจออกแบบโปรโมชั่นที่เน้นส่วนลดหรือของสมนาคุณ เพื่อกระตุ้นการตัดสินใจซื้อ

ขั้นตอนที่ 5 การออกแบบ รีโนเวทบ้าน ให้ตรงใจกลุ่มลูกค้า

การออกแบบรีโนเวทบ้านให้ตรงใจกลุ่มลูกค้านั้น สิ่งสำคัญคือต้องเข้าใจความต้องการของลูกค้าอย่างแท้จริง โดยสามารถสอบถามความต้องการของลูกค้าโดยตรง หรือศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับลูกค้าผ่านช่องทางต่าง ๆ เช่น โซเชียลมีเดีย หรือจากการทำวิจัยตลาด เมื่อเข้าใจความต้องการของลูกค้าแล้วจึงสามารถออกแบบบ้านให้ตรงใจพวกเขามากที่สุด

ขั้นตอนที่ 6 การทำการตลาด

การทำการตลาดที่ดีควรพิจารณาถึงกลุ่มลูกค้าเป้าหมายเป็นหลัก ว่ากลุ่มลูกค้ามีพฤติกรรมอย่างไร มีความสนใจในอะไร ช่องทางการสื่อสารที่พวกเขาใช้เป็นประจำคืออะไร เมื่อเข้าใจกลุ่มลูกค้าแล้วจึงจะสามารถกำหนดกลยุทธ์การตลาดที่เหมาะสมได้ นอกจากนี้ การทำการตลาดยังควรคำนึงถึงแพลตฟอร์มที่ใช้ในการสื่อสารด้วย แต่ละแพลตฟอร์มมีจุดเด่นและจุดด้อยที่แตกต่างกันไป หากเลือกใช้แพลตฟอร์มที่เหมาะสมกับกลุ่มลูกค้าและวัตถุประสงค์ที่ต้องการจะบรรลุก็จะยิ่งเพิ่มโอกาสในการเข้าถึงและสร้างความสัมพันธ์กับลูกค้าได้มากขึ้น

ขั้นตอนที่ 7 ขั้นตอนการขาย

การขายสินค้านั้น ไม่ว่าจะขายให้กับใคร โดยใช้วิธีการใด ล้วนต้องอาศัยทักษะการขายที่ดี ซึ่งทักษะการขายนั้นซ่อนดีเทลและศิลปะไว้มากมาย แม้แต่ผู้ที่ไม่เคยขายสินค้ามาก่อน ก็สามารถเรียนรู้ทักษะการขายได้

ขั้นตอนที่ 8 การวิเคราะห์ศักยภาพของลูกค้า

การวิเคราะห์ศักยภาพลูกค้าช่วยให้นายหน้าอสังหาริมทรัพย์สามารถคัดกรองลูกค้าที่ไม่มีศักยภาพในการกู้ยืมเงินได้ โดยหากนายหน้าอสังหาริมทรัพย์พบว่าลูกค้าไม่มีความสามารถในการกู้ยืมเงิน แต่ยังคงยื่นกู้สินเชื่อกับธนาคาร ธนาคารอาจปฏิเสธสินเชื่อของลูกค้า ซึ่งอาจทำให้ลูกค้าเสียเครดิตและเสียโอกาสในการขอสินเชื่อในอนาคต

ขั้นตอนที่ 9 การโอนกรรมสิทธิ์

การโอนกรรมสิทธิ์ที่ดินในปัจจุบันไม่ได้ง่ายอย่างที่คิด เนื่องจากกระบวนการของกรมที่ดินมีความรัดกุมมากขึ้น ทำให้มีขั้นตอนและเอกสารที่ต้องเตรียมจำนวนมาก รวมถึงต้องใช้ความรอบคอบในการกรอกข้อมูล หากเอกสารไม่ถูกต้องหรือมีข้อผิดพลาดเพียงเล็กน้อย อาจทำให้การโอนกรรมสิทธิ์ไม่ผ่านได้ ตัวอย่างเช่น กรณีการเขียนเอกสารด้วยหมึกสีดำและสีน้ำเงินในแบบฟอร์มเดียวกัน โดยเขียนด้วยหมึกคนละสีหรือเฉดสี อาจทำให้เอกสารไม่ผ่านการตรวจสอบได้เช่นกัน

อย่างไรก็ตาม แม้การ Flip อสังหาริมทรัพย์จะสามารถสร้างกำไรได้อย่างรวดเร็ว แต่ก็มีความเสี่ยงอยู่เช่นกัน เพราะถ้าคุณไม่มีประสบการณ์มากพอ อาจเจอสถานการณ์ที่ทรัพย์ไม่สามารถขายได้ในราคาที่ต้องการ หรือต้องใช้เวลานานกว่าที่คาดไว้

เพราะฉะนั้น สำหรับใครก็ตามที่เริ่มต้นจากการพนักงานประจำเงินเดือนหลักหมื่น แต่อยากเติบโตในวงการอสังหาริมทรัพย์ด้วยการ Flip สิ่งแรกที่ต้องทำคือศึกษาหาความรู้เกี่ยวกับการลงทุนอสังหาฯ จนเข้าใจอย่างถ่องแท้ ไม่ว่าจะเป็นกระบวนการ Flip อย่างละเอียด เรื่องทำเลที่ตั้ง รูปแบบอาคาร ความต้องการของกลุ่มลูกค้า ขั้นตอนการขอสินเชื่อ กฎหมายที่เกี่ยวข้อง รวมไปถึงความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นในการลงทุน

นอกจากนี้ สิ่งสำคัญอีกประการหนึ่งคือต้องมีวินัยในการลงทุนอย่างมาก แม้จะบอกว่าอสังหาริมทรัพย์นั้นมีความมั่นคงสูงและมีโอกาสเติบโตขึ้นตลอดเวลา แต่ก็ต้องมีการวางแผนอย่างรอบคอบเสมอ

…

ใครอยากลงทุนอสังหาฯ เเต่ไม่อยากใช้งบเยอะ
การ Flip อาจเป็นคำตอบให้คุณได้