แก้เกม ทำอะไรก็ไม่เป็นสักอย่าง จริง ๆ แล้วเราฝึกถูกวิธีหรือไม่

แก้เกม ทำอะไรก็ไม่เป็นสักอย่าง จริง ๆ แล้วเราฝึกถูกวิธีหรือไม่

แก้เกม ทำอะไรก็ไม่เป็นสักอย่าง จริง ๆ แล้วเราฝึกถูกวิธีหรือไม่

หลายคนอาจเคยรู้สึกว่าตัวเองทำอะไรก็ไม่เป็นสักอย่าง ไม่ว่าจะพยายามแค่ไหนก็ดูเหมือนจะไม่ได้เรื่องสักที บางคนอาจรู้สึกท้อแท้และหมดกำลังใจ คิดว่าตัวเองคงไม่เหมาะกับอะไรเลย

แต่ความเป็นจริงแล้ว การที่รู้สึกว่าตัวเองทำอะไรก็ไม่เป็นสักอย่างนั้น อาจไม่ได้หมายความว่าเราไร้ความสามารถ แต่เป็นเพราะเราอาจยังไม่พบสิ่งที่เราถนัดหรือมีความสนใจอย่างแท้จริง หรือไม่ก็อาจยังฝึกฝนไม่เพียงพอ

การเรียนรู้สิ่งใหม่ ๆ นั้นต้องอาศัยเวลาและความพยายาม ไม่มีใครเก่งมาตั้งแต่เกิด แม้แต่คนที่ประสบความสำเร็จก็ยังเคยผิดพลาดมาก่อน สิ่งสำคัญคืออย่ายอมแพ้ง่าย ๆ พยายามฝึกฝนอย่างสม่ำเสมอ และให้เวลาตัวเองในการพัฒนา

โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกรณีที่คุณเพิ่งเริ่มทำอะไรใหม่ ๆ อย่างเช่นเพิ่งเริ่มทำงานหรือเปลี่ยนสายงานใหม่ ความรู้สึกที่ว่าตัวเองทำอะไรไม่เป็นสักอย่างเลย มันจะทำให้คุณคิดอยู่แค่ว่าเป็นเพราะตัวเองไม่มีความสามารถมากพอหรือเปล่า ทำไมพยายามแค่ไหนก็ยังรู้สึกว่าไม่ประสบความสำเร็จสักที เรียกได้ว่าเป็นปัญหาใหญ่ที่ส่งผลกระทบต่อความมั่นใจในตัวเองและส่งผลต่อประสิทธิภาพในการทำงานของคุณด้วย

แล้วสาเหตุที่ทำให้เรารู้สึกแบบนั้น มันเป็นเพราะอะไรกันล่ะ ?

1. ไม่มีประสบการณ์
แก้เกม ทำอะไรก็ไม่เป็นสักอย่าง จริง ๆ แล้วเราฝึกถูกวิธีหรือไม่

ในช่วงเวลาเริ่มต้นทำงานใหม่หรือเมื่อเราเปลี่ยนสายงานใหม่ อาจมีความรู้สึกว่าตัวเองไม่เก่งอะไรเลยสักนิด ซึ่งเป็นเรื่องปกติที่เกิดขึ้นกับทุกคน คุณสามารถเพิ่มความมั่นใจในการทำงานของคุณได้โดยพยายามอย่างเต็มที่กับทุก ๆ งานที่คุณได้รับมอบหมาย ใช้ทุกโอกาสในการเรียนรู้ ตั้งเป้าหมายที่จะพัฒนาความรู้ความสามารถในการทำงานด้วยความมุ่งมั่น เพราะแต่ละงานที่คุณทำนั้นย่อมเป็นโอกาสให้คุณเพิ่มความรู้และประสบการณ์ใหม่ ๆ อย่างต่อเนื่อง

นอกจากนี้ คนที่ขาดประสบการณ์ในสายงานใหม่ ๆ ยังสามารถแสดงความกระตือรือร้นในการเรียนรู้ได้อีกด้วย มุ่งหวังที่จะพลิกแพลงช่วยเรื่องปัญหาและเร็วขึ้นทำให้เป็นผู้ที่เก่งในสายงานนั้น ๆ โดยการอ่านหนังสือเรียนรู้จากหลังคาเรือน ดูคลิปวิดีโอใน YouTube หรือเข้าเรียนคอร์สอนไลน์ที่เกี่ยวข้องกับงานที่คุณทำ

ทุกคนเริ่มต้นที่จุดเดียวกันคือต้องการพัฒนาความสามารถในสายงานใหม่ ๆ และมองว่าความขาดแคลนที่เกิดขึ้นเป็นโอกาสในการเติบโตและเรียนรู้ ไม่เพียงเท่านั้น แต่ยังเป็นแรงผลักดันให้เราก้าวออกจากเซฟโซนเพื่อประสบความสำเร็จกับสายงานใหม่ได้อย่างมืออาชีพ

2. คาดหวังสูงเกินไป
แก้เกม ทำอะไรก็ไม่เป็นสักอย่าง จริง ๆ แล้วเราฝึกถูกวิธีหรือไม่

การมีความคาดหวังในตนเองเป็นสิ่งที่ดี เป็นแรงผลักดันให้เรามีความกระตือรือร้นในการปรับปรุงตนเองและบรรลุเป้าหมายที่ตั้งไว้ แต่บางครั้งคนเราอาจจะคาดหวังกับตัวเองสูงเกินไป คิดว่าตัวเองจะต้องเก่งทุกอย่างตั้งแต่แรกเริ่ม แต่จริง ๆ แล้วมันอาจทำให้เรารู้สึกกดดันและเครียดเพิ่มขึ้น เมื่อเราไม่สามารถบรรลุความคาดหวังที่สูงเหล่านั้นได้ เราก็จะรู้สึกผิดหวังในตัวเองและรู้สึกว่าตัวเองไม่เก่งอะไรเลย ดังนั้นควรตั้งเป้าหมายแค่พอเหมาะพอควร จะช่วยลดความกดดันและความเครียดในการทำงานลงไปได้ นอกจากนี้ยังช่วยให้เรามีโอกาสที่จะเรียนรู้และเติบโตจากความผิดพลาดภายในกระบวนการพัฒนาตนเอง อย่าลืมว่าการพัฒนาตนเองเป็นกระบวนการที่ต้องใช้เวลาและความมุ่งมั่น ไม่จำเป็นต้องเก่งทุกอย่างตั้งแต่เริ่มต้น แต่จำเป็นต้องพยายามอย่างสม่ำเสมอและยอมรับให้ได้ว่าความผิดหวังก็เป็นส่วนหนึ่งของการเติบโตเช่นกัน

3. กลัวความล้มเหลว
แก้เกม ทำอะไรก็ไม่เป็นสักอย่าง จริง ๆ แล้วเราฝึกถูกวิธีหรือไม่

บางคนอาจจะกลัวความล้มเหลวมากเกินไป จนไม่กล้าที่จะลองทำอะไรใหม่ ๆ กลัวว่าจะทำพลาด กลัวว่าจะโดนคนอื่นมองว่าไม่เก่ง หากเราไม่กล้าพยายาม ไม่กล้าลงมือทำอะไรใหม่ ๆ เราจะยังคงอยู่ในสภาวะเดิม ไม่มีการเปลี่ยนแปลง การที่จะประสบความสำเร็จได้นั้น ต้องทะเยอทะยานที่จะพัฒนาและเติบโต ถึงแม่ว่าการที่จะเอาชนะการกลัวความล้มเหลวนั้นไม่ง่ายเลย

แต่เราสามารถทำได้โดยการเตรียมตัวให้พร้อมและมีการวางแผนก่อนที่จะลงมือทำสิ่งใหม่ ๆ ไม่ว่าจะเป็นการศึกษาและพัฒนาทักษะใหม่ การค้นคว้าและศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับอาชีพหรือธุรกิจที่เราสนใจ หรือการฝึกฝนความมั่นใจในตนเอง เราควรแสดงให้คนอื่นเห็นว่าเราสามารถทำสิ่งที่เราตั้งใจได้ และมีความมุ่งมั่นที่จะประสบความสำเร็จในอาชีพของเรา การกลัวความล้มเหลวในอาชีพเป็นสิ่งที่อยู่ในจิตใจของทุกคน แต่การที่เราปล่อยให้ความกลัวนี้ครอบงำจิตใจเราจนเกินไป ก็จะทำให้เราไม่มีความกล้าที่จะเข้าสู่โอกาสใหม่ ๆ และไม่มีแรงบันดาลใจในการพัฒนาตนเอง

4. ขาดความมั่นใจในตัวเอง
แก้เกม ทำอะไรก็ไม่เป็นสักอย่าง จริง ๆ แล้วเราฝึกถูกวิธีหรือไม่

การมั่นใจในตัวเองเป็นสิ่งสำคัญที่ทุกคนควรมี เพราะมันจะช่วยให้เรากล้าที่จะเผชิญกับความท้าทายต่างๆ ในชีวิตได้อย่างไม่หวั่นเกรง แต่ในทางกลับกัน คนที่ขาดความมั่นใจในตัวเองมักจะรู้สึกว่าตัวเองไม่เก่งอะไรเลย ไม่ว่าจะทำอะไรก็จะรู้สึกว่าตัวเองทำได้ไม่ดี ซึ่งความไม่มั่นใจในตัวเองนี้จะทำให้เราไม่กล้าที่จะลองทำอะไรใหม่ ๆ และอาจส่งผลให้เราพลาดโอกาสดี ๆ ในชีวิต

วิธีที่จะเอาชนะความไม่มั่นใจในตัวเองคือการเริ่มต้นด้วยการยอมรับตัวเองให้ได้ ทำความเข้าใจว่าไม่มีใครสมบูรณ์แบบ และการที่คุณได้ลองทำอะไรสักอย่างแล้วเกิดความผิดพลาดขึ้นมานั้นเป็นสิ่งที่ปกติมาก ไม่ว่าคุณจะล้มเหลวในครั้งแรก ครั้งที่สอง หรืออีกสักกี่ครั้ง การที่คุณมีความมั่นใจในการลองอีกครั้งจะช่วยคุณในการพัฒนาและเติบโตขึ้นไปได้

แน่นอนว่าความกลัวเป็นสิ่งปกติของมนุษย์ ทุกคนต่างก็กลัวอะไรบางอย่าง แต่หากปล่อยให้ความกลัวครอบงำจิตใจ มันก็ทำให้เราไม่กล้าทำอะไรเลย ทั้งที่สิ่งนั้นอาจเป็นสิ่งที่เราต้องการทำจริง ๆ

ถ้าคุณกำลังกลัวที่จะทำอะไรสักอย่าง ลองถามตัวเองว่า “ถ้าฉันไม่ลองทำ ฉันจะเสียใจไหม?” ถ้าคำตอบคือ “ใช่” นั่นก็หมายความว่าคุณควรลองทำดู อย่างน้อยคุณก็จะได้รู้ว่าตัวเองทำได้หรือไม่ ดีกว่าที่จะอยู่เฉย ๆ แล้วมานั่งเสียใจทีหลัง แต่เมื่อคุณเริ่มลงมือทำแล้ว คุณก็จะค่อย ๆ เรียนรู้และเก่งขึ้น ถึงแม้ว่าคุณจะผิดพลาดบ้าง แต่นั่นก็เป็นเรื่องธรรมดา ไม่มีใครเกิดมาเก่งทุกอย่าง สิ่งสำคัญคืออย่ายอมแพ้ต่อความกลัวและที่สำคัญอย่าหยุดเรียนรู้

แต่ถ้าคุณทำทุกวิถีทางแล้วยังไม่ได้ในสิ่งที่ต้องการ ไม่ถูกยอมรับ ไม่ประสบความสำเร็จเหมือนคนอื่นเขา

นั่นเป็นเพราะคุณไม่รู้ความลับ 1 เรื่อง นั่นก็คือ วิชา “จริต” มนุษย์

ถ้าคุณเป็นเจ้าของธุรกิจ แล้วรู้จักวิธีตอบสนองให้ตรงใจลูกน้อง ลูกค้า และคู่ค้า คุณจะเติบโตเร็วมาก

ถ้าคุณเป็นนักขาย นี่คือศิลปะการกระตุ้นต่อม “อยาก” ให้ลูกค้าวิ่งเข้าหาคุณ

หากคุณเป็นลูกน้อง แค่รู้เทคนิคนี้ เจ้านายจะขาดคุณไม่ได้

คุณจะได้ทุกสิ่งที่ต้องการ หากคุณรู้เทคนิคนี้

“ชนะใจลูกน้อง ครองใจเจ้านาย ได้ใจเพื่อนร่วมงาน ได้คอนเนคชั่นระดับลึกกับลูกค้า

นี่คือหลักสูตรออนไลน์ ความยาวทั้งสิ้นกว่า 2 ชั่วโมง มูลค่า 9,900 บาท แต่ 7D เต็มใจให้เป็นของขวัญพิเศษแด่คุณ ฟรี !

สนใจเรียนหลักสูตรนี้ ฟรี !

กดที่ลิงก์นี้ได้เลย ➤   https://lin.ee/QOJZpRO
แก้เกม ทำอะไรก็ไม่เป็นสักอย่าง จริง ๆ แล้วเราฝึกถูกวิธีหรือไม่
สอนโดย โค้ชโกโก้ ภูมิพัฒน์ ญาณพัฒน์ตระกูล
ผู้เชี่ยวชาญด้านศาสตร์การเรียนรู้ใจ รู้จริตคน ที่ได้รับการยอมรับจากองค์กรชั้นนำระดับประเทศมากกว่า 100 แห่ง
Scroll to Top