
ถ้ารู้เรื่องนี้ก่อน สำนักงานทนายความหลายแห่งคงไม่ล้มเร็วขนาดนี้
“ตั้งใจดี มีทีมดี มีประสบการณ์แน่น ทำไมถึงไปไม่รอด?”
นี่คือคำถามที่เจ้าของสำนักงานทนายความจำนวนมากยังหาคำตอบอยู่
บางแห่งเพิ่งเปิดได้ไม่นาน กำลังเริ่มมีชื่อเสียง ก็ต้องปิดตัว
บางแห่งอยู่มานาน แต่เงียบลงเรื่อย ๆ ลูกความเก่าเริ่มหาย ลูกความใหม่ไม่เข้า
บางแห่งขยายเร็ว แล้วก็เจ็บเร็ว เพราะรับมือกับความเปลี่ยนแปลงไม่ทัน
ที่น่าเศร้าคือ… ปัญหาส่วนใหญ่ไม่ได้เริ่มจาก “ไม่มีเงิน” แต่เกิดจาก “ไม่มีวิธีคิดที่รอด”
ข้อมูลจากสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) ระบุว่า ธุรกิจ SME ไทยกว่า 42% ต้องปิดกิจการภายใน 3 ปีแรก และใช่ครับ… ในนั้นรวมถึง “สำนักงานทนายความ” ด้วย

เพราะในวันที่โลกเปลี่ยนเร็ว ความรู้ทางกฎหมายอย่างเดียว…ไม่พออีกต่อไป
การที่เรามีความรู้ทางกฎหมายแม่นยำ มีทีมงานมือดี มีประสบการณ์โชกโชน ไม่ได้แปลว่า “สำนักงานจะรอด” เพราะโลกวันนี้ไม่ได้วัดกันแค่ความรู้ แต่ “วัดกันที่วิธีคิด” โดยเฉพาะ Critical Thinking หรือ “การคิดอย่างมีวิจารณญาณ”
ทำไม Critical Thinking จึงสำคัญกับสำนักงานทนายความ?
เพราะมันคือทักษะที่แยก “คนที่รอด” กับ “คนที่ร่วง” โดยเฉพาะในโลกที่ลูกความมีตัวเลือกเยอะขึ้น มีข้อมูลมากขึ้น และมีคำถามเยอะกว่าที่เราเคยชิน
Critical Thinking ไม่ใช่แค่การเถียงเก่ง หรือจับผิดเก่ง แต่มันคือ…
➤ การไม่เชื่อทุกอย่างที่ตัวเองคิด
➤ การไม่หลงทุกอย่างที่ลูกความพูด
➤ และการไม่ตัดสินใจเพียงเพราะมั่นใจเกินเหตุ
นี่คือ 6 หลักคิดสำคัญ ที่หลายสำนักงานน่าจะ “อยากรู้ก่อนเปิดกิจการ” เพราะถ้าเข้าใจตั้งแต่ต้น…อาจไม่ต้องล้มเร็วขนาดนี้

1. ฟังมุมที่ไม่ตรงกับความคิดตัวเอง
มนุษย์ทุกคนมีแนวโน้ม “เลือกฟังในสิ่งที่อยากฟัง” และนี่คือกับดักของคนเก่ง
สำนักงานที่มั่นใจในประสบการณ์ของตัวเอง มักจะละเลยเสียงบางอย่างที่ไม่ตรงกับความเชื่อ เช่น…
ลูกความที่หายไปเงียบ ๆ โดยไม่บอกเหตุผล พาร์ทเนอร์รุ่นใหม่ที่เสนอความคิดแบบ Digital หรือแม้แต่เสียงจากลูกน้องที่ถามว่า “ถ้าเราลองคิดใหม่…จะเป็นยังไง?”
สิ่งเหล่านี้ถูกมองข้ามบ่อย เพราะมัน “ไม่ตรงใจ”
แต่ในโลกที่ซับซ้อนขึ้นทุกวัน “มุมที่ไม่ตรงใจ” ต่างหาก…ที่อาจพาเราไปรอด
ยิ่งฟังให้กว้าง ยิ่งรอดได้มาก

2. ตั้งคำถามมากกว่าคล้อยตาม
คำถามที่ดี…ดีกว่าคำตอบที่สวย
ก่อนจะเพิ่มบริการใหม่
ก่อนจะจ้างทีมเพิ่ม
ก่อนจะเปิดสาขาใหม่
คำถามสำคัญที่ต้องกล้าถามคือ
➤ ลูกค้าต้องการสิ่งนี้จริงไหม?
➤ เรากำลังแก้ปัญหาให้ลูกค้าจริง ๆ หรือเปล่า?
➤ หรือเรากำลังแก้ปัญหาในหัวของเราเอง?
รายงานจาก McKinsey ระบุว่า กว่า 80% ของบริการและผลิตภัณฑ์ใหม่ล้มเหลวในปีแรก
ส่วนใหญ่ “ไม่ได้ล้มเพราะไม่เก่ง” แต่ล้มเพราะ “เข้าใจตลาดผิด”
สำนักงานทนายก็เช่นกัน ถ้าไม่ตั้งคำถามให้มากพอ เรากำลังทำงานแบบ “คาดเดา” ไม่ใช่แบบ “เข้าใจจริง”

3. คุยกับคนที่คิดต่าง
หลายสำนักงานเลือกสร้างทีมจาก “คนที่คิดเหมือนกัน” เพื่อความสบายใจ เพื่อความเร็ว แต่ลืมไปว่า…ความคิดต่าง คือเครื่องมือวิเคราะห์ความเสี่ยง
Kodak เคยปฏิเสธแนวคิดกล้องดิจิทัลที่พนักงานตัวเองคิดขึ้นในปี 1975 เพราะผู้บริหารมั่นใจว่า “ฟิล์มยังขายได้อีกนาน” สุดท้าย Kodak ประกาศล้มละลายในปี 2012
ถ้าในห้องประชุมมีแต่คนพยักหน้า…ระวังจะพลาดสิ่งสำคัญ อย่ากลัวคนที่ไม่เห็นด้วย จงกลัว “คนที่เงียบ…เพราะไม่กล้าพูด”
4. รู้เท่าทันความคิดของตัวเอง (Metacognition)
เจ้าของสำนักงานจำนวนมาก ตัดสินใจด้วยความรู้สึกและประสบการณ์ส่วนตัว
“ลูกฉันชอบบริการแบบนี้ แปลว่าลูกความก็น่าจะชอบ”
“ฉันเคยว่าคดีนี้สำเร็จแบบนี้ งั้นทุกคดีก็ควรใช้วิธีเดียวกัน”
แต่ลืมไปว่า… สิ่งที่เวิร์กในวงเล็ก อาจไม่เวิร์กในวงใหญ่
Metacognition คือการ “กลับมามองความคิดของตัวเอง” ว่าเรากำลังตัดสินจากอะไร เรากำลังคิดแบบไหน และคิดเพราะอะไร
ธุรกิจที่อยู่รอด…ไม่ใช่ธุรกิจที่มั่นใจสุด แต่คือธุรกิจที่ “กล้าถามตัวเองมากที่สุด”

5. เรียนรู้ แม้ไม่มีใครบังคับ
อาชีพทนายเป็นอาชีพที่คนข้างนอกมองว่า “อ่านเยอะ” แต่ความจริงคือ…หลังจบปริญญาและฝึกฝน หลายคน “หยุดอ่าน” โดยไม่รู้ตัว
Harvard Business Review เคยระบุว่า…
ผู้บริหารที่อ่านหนังสือต่อเนื่อง มักตัดสินใจแม่นยำกว่าในภาวะวิกฤติ
ในยุคที่กฎหมายเปลี่ยน แนวคำพิพากษาเปลี่ยน พฤติกรรมผู้บริโภคเปลี่ยน และเทคโนโลยีก็กำลังรุกเข้ามาในโลกของทนาย
การหยุดเรียนรู้ = การรอวันตามไม่ทัน
อย่าให้ตัวเองกลายเป็น “ผู้เชี่ยวชาญที่ล้าสมัย”
6. ใช้ความรู้ให้ “ทันเวลา”
Blockbuster รู้ว่า Streaming กำลังมา
รู้ว่า Netflix โตเร็ว
รู้ว่าเทคโนโลยีเปลี่ยนพฤติกรรมคนดู
แต่สิ่งที่ Blockbuster ไม่ทำคือ “ลงมือเปลี่ยนทันเวลา”
หลายสำนักงานก็เช่นกัน
รู้ว่าต้องสร้างแบรนด์
รู้ว่าควรสื่อสารผ่านออนไลน์
รู้ว่าคู่แข่งเริ่มใช้ AI ช่วยร่างเอกสาร
แต่ “ยังไม่ทำ” เพราะรอเวลา
เพราะกลัวทำแล้วไม่เป๊ะ
เพราะกลัวคนอื่นมองว่าไม่มืออาชีพ
แต่ในโลกจริง…คนที่รอด ไม่ใช่คนที่รู้เยอะ แต่คือ “คนที่ลงมือก่อนที่มันจะสายเกินไป”

สำนักงานทนายความไม่ได้ล้ม…เพราะความรู้ไม่พอ
แต่มักล้มเพราะ “วิธีคิดไม่พอ”
ในโลกที่ความรู้หาดูได้จาก YouTube แต่วิธีคิดหาไม่ได้จาก Google
Critical Thinking ไม่ใช่แค่ทักษะที่ดีมีไว้เฉย ๆ แต่มันคือ “เกราะรอด” ของคนทำธุรกิจ โดยเฉพาะคนที่แบกชื่อเสียงไว้บนป้ายสำนักงาน
หากรู้ 6 ข้อนี้ตั้งแต่วันแรก บางสำนักงาน…อาจไม่ต้องพูดว่า “ถ้ารู้เรื่องนี้ก่อน…สำนักงานคงไม่ล้มเร็วขนาดนี้”
แล้วสำนักงานของคุณ… กำลังคิดอย่างมีวิจารณญาณพอหรือยัง?

สอนใช้ AI แบบลึกสุดในวงการกฎหมาย
ถ้าคุณเป็นบุคลากรในกระบวนการยุติธรรม และยังไม่ใช้ AI คุณกำลังเสียเปรียบทุกวัน โดยไม่รู้ตัว
ทุกวัน คู่แข่งของคุณกำลังทำสำนวนเร็วกว่า
ค้นข้อมูลไวกว่า แปลเอกสารได้ทันที
ปิดคดีได้ก่อน ทั้งที่ความรู้กฎหมายของคุณอาจไม่ด้อยไปกว่าเขาเลย
สิ่งที่น่ากลัวไม่ใช่ AI สิ่งที่น่ากลัว คือ คู่แข่งของคุณกำลังรู้วิธีใช้มัน (แต่คุณยังไม่รู้)

หลักสูตร 2 วันเต็ม
เนื้อหาเข้มข้นจากพื้นฐานสู่ระดับลึกสุด
เรียนจบ ใช้ได้จริงทุกวัน ไม่ต้องลองผิดลองถูก
Day 1 : AI ช่วยทนายและบุคลากรในกระบวนการยุติธรรมทำงานได้เร็วขึ้นอย่างไร
Day 2 : AI ช่วยทนาย บุคลากรในกระบวนกายุติธรนม สื่อสาร-ปิดคดี ได้เหนือกว่า ลึกกว่าจนคู่แข่งตามไม่ทัน
เฉพาะรุ่นนี้! สมัครภายใน 24 ชั่วโมงนี้ รับโบนัสพิเศษ