วิทยากร

วันก่อนผมนั่งฟังช่างตัดผมคนหนึ่งเล่าเรื่อง “ลูกค้าที่มานั่งในเก้าอี้”

เขาเล่าได้มีชีวิต
ไม่ใช่เพราะเขาพูดเก่ง
แต่เพราะเขาฟังคนมาเยอะ
ฟังจนเข้าใจ
เข้าใจจนเล่าเป็น

เขาเล่าเรื่องลูกค้าที่อกหัก
คนที่ถูกไล่ออกจากงาน
เด็กที่มานั่งเงียบเพราะเพิ่งทะเลาะกับพ่อ
และเขา…ไม่ได้แค่เล่า
เขา “เข้าใจ” คนเหล่านั้น

ตอนนั้นผมคิดในใจว่า…
“ถ้าชวนช่างตัดผมคนนี้ไปพูดบนเวที เขาน่าจะสั่น”

แต่ถ้าเราช่วยเขาเรียบเรียงเรื่องให้ดี
ช่วยวางโครงเรื่องให้น่าสนใจ
เขาอาจเป็นวิทยากรที่คนทั้งห้องลุกขึ้นปรบมือ

วิทยากร

Step 1 : สำรวจ “เรื่องของเรา” ที่เคยผ่าน

ไม่ต้องเริ่มจากความเก่ง
เริ่มจากความจริงก็พอ
ความผิดพลาดก็ได้
ความสำเร็จก็ได้
แต่ขอให้มัน “เป็นของเรา”

คนฟังไม่ได้อยากได้สูตรสำเร็จ
เขาอยากได้ “เรื่องจริง” ที่ทำให้เขาเชื่อว่า “ฉันก็ทำได้เหมือนกัน”

อย่าเริ่มจากคำว่า “ฉันจะสอนอะไรดี”
ให้เริ่มจากคำว่า “ฉันเคยเจออะไรมา แล้วฉันผ่านมันมาได้ยังไง”

Step 2 : ถอดบทเรียนจากประสบการณ์

ช่างทำขนมที่เคยเจ๊ง 3 รอบ แล้วกลับมาดังใน TikTok
แม่ค้าออนไลน์ที่เรียนจบ ม.3 แต่ทำยอดขายหลักล้าน
หมอที่ลาออกจาก รพ.รัฐ มาเปิดคลินิกเล็ก ๆ และยังไม่เจ๊ง
หรือข้าราชการที่หารายได้เสริมหลังเลิกงาน โดยไม่ผิดระเบียบ

ทุกคน “สอนได้” ถ้าไม่แค่เล่า แต่ “กล้าแปลงเรื่องเป็นบทเรียน”

Step 3 : หัดเล่าแบบเพื่อน ไม่ใช่ครู

อย่ารีบขึ้นเวทีใหญ่
หัดพูดกับเพื่อน หัด Live กับกลุ่มเล็ก ๆ
หัดเล่าในเพจของตัวเอง

เล่าเรื่องแบบ “ใจเขาใจเรา”
เล่าพลาดไม่เป็นไร
แต่ขอให้เล่าแบบมีหัวใจ

วันหนึ่งผมเจอคุณยายเจ้าของร้านก๋วยเตี๋ยว
เธอพูดเรื่องการบริหาร “หมูตุ๋น” ให้ได้กำไร
เธอไม่ได้เรียน MBA
แต่เล่าเรื่องต้นทุน – ขาดทุน – การเอาตัวรอด
เหมือนอาจารย์เศรษฐศาสตร์ที่ผมเรียนด้วยสมัยมหาลัย

ผมอยากหยิบมือถือขึ้นมาอัดคลิป
แล้วตั้งชื่อว่า “หลักสูตรเศรษฐศาสตร์ริมทาง”

เธอไม่รู้ด้วยซ้ำว่า “เธอคือวิทยากรที่ดีที่สุดในชีวิตของใครบางคน”

Step 4 : สร้างเวทีให้ตัวเอง ก่อนคนอื่นจะเชิญ

โพสต์ความรู้ใน Facebook
เปิดสอนกลุ่มเล็ก ๆ
ไลฟ์แบ่งปันประสบการณ์ใน TikTok
เขียนบทความใน Medium หรือเขียนหนังสือสักเล่ม

อย่ารอให้มีคนมาจ้าง
จงลุกขึ้น “เป็นเวทีของตัวเอง” ให้คนรู้จักเราจากเรื่องจริงของเรา

นักพูดที่ดังที่สุดบางคน ไม่เคย “ถูกจ้าง” ครั้งแรก
แต่เขา “สร้างเวที” ด้วยหัวใจ และความกล้าเล่าของตัวเอง

Step 5 : ค่าตัวคือผลลัพธ์ ไม่ใช่จุดเริ่มต้น

เคยมีคนถามผมว่า “เป็นวิทยากรได้เงินเท่าไหร่?”
ผมบอกว่า…เริ่มแรก ได้กาแฟแก้วนึง
ต่อมา ได้น้ำใจเล็ก ๆ
แล้วค่อยได้ค่าตัว

คนที่อยากเริ่มจากค่าตัว จะมักจบแบบไม่มีใครจำ
แต่คนที่เริ่มจาก “ของจริง” จะถูกจดจำแม้ไม่มีใครจ้าง

ถ้าเอาเฉลี่ย…

มือใหม่ที่มีประสบการณ์จริง มีเรื่องเล่าเฉพาะทาง : 5,000 – 20,000 บาท / ครั้ง

วิทยากรมืออาชีพ มีชื่อเสียง มีหนังสือหรือฐานแฟนคลับ : 30,000 – 80,000 บาท / ครั้ง

ระดับเซเลบฯ นักพูดระดับประเทศ หรือวิทยากรองค์กรใหญ่ระดับซีอีโอ : 100,000 บาทขึ้นไป / ครั้ง

บางคนสอนออนไลน์ได้เดือนละหลักแสน

บางคนใช้เวทีเป็น “สะพาน” ขายสินค้าตัวเอง

บางคนพูดแค่ครั้งเดียว แต่เปลี่ยนชีวิตคนทั้งห้อง

อาชีพไหนก็เป็นวิทยากรได้ แค่คุณมีหัวใจอยากให้ มีเรื่องที่ “ผ่าน” แล้ว และมีความกล้าที่จะ “เล่า” มันออกมา

บางคนคิดว่า…ต้องเก่งก่อนถึงจะสอนได้ แต่ในโลกจริง บางคน “ได้เรียนรู้” เพราะคุณยอมเล่า “ตอนที่ยังไม่สมบูรณ์” นั่นแหละ

วิทยากรที่ดีที่สุด…ไม่ใช่คนเก่งที่สุด
แต่คือคนที่ “มีหัวใจอยากแบ่งปัน” ที่จริงที่สุด

มี “เรื่องอะไร” ที่คุณอยากเล่าให้ใครสักคนฟัง?
มาแชร์ใต้โพสต์นี้ให้เราได้เรียนรู้จากกันและกันครับ

#อาชีพไหนก็เป็นวิทยากรได้
#เล่าจากของจริงถึงคนจริง
#เริ่มต้นวันนี้ ไม่ต้องรอวันเก่ง 

เมื่อ MBA และการบริหารธุรกิจรูปแบบเดิม ๆ นั้นอาจไม่เพียงพอต่อการทำและต่อยอดในยุคที่เทคโนโลยีกำลังเคลื่อนตัวไปยังจุดสูงสุด หลักสูตรนี้จึงออกแบบมาเพื่อเน้นย้ำถึงพื้นฐานและความสำคัญของการบริหารธุรกิจโดยรวมเอา AI เข้ามาประยุกต์ เพื่อจัดการกับความท้าทายในแง่ของการวิเคราะห์คู่แข่ง การวิจัยผลิตภัณฑ์ การทำการตลาด และการบริหารจัดการคนให้ง่าย สะดวก รวดเร็ว และมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น

• ผู้บริหารรุ่นใหม่ ที่กำลังมองหาการปฏิบัติการทางธุรกิจที่ชาญฉลาดยิ่งขึ้น

• เจ้าของธุรกิจ ที่ต้องการใช้เทคโนโลยีเพื่อพัฒนาธุรกิจ

• นักศึกษาหลักสูตร MBA และ BBA ที่ต้องการขยายขอบเขตความรู้

• ผู้มุ่งมั่นที่จะเติบโตในอาชีพ ด้วยการใช้งาน AI แบบมืออาชีพ

Scroll to Top