อยากรวย? ขยันจนหลังแทบหัก แต่ยังจน เพราะคิดแบบเดิม

คุณตื่นเช้าก่อนพระอาทิตย์ ทำงานเต็มเวลา กลับบ้านดึกด้วยโอทีบางวัน บางวันต้องไปรับจ๊อบเสริม วันหยุดก็ไม่ได้หยุด เพราะอยากมีรายได้เพิ่ม แต่สิ้นเดือน…บัญชีก็ยังว่างเปล่าเหมือนเดิม

คุณอาจเคยบอกตัวเองว่า อยากรวย แต่มันยังไม่ถึงเวลา ยังไม่พร้อม ยังต้องอดทนอีกหน่อย แต่ก็พูดแบบนี้มาหลายปีแล้ว จนเริ่มสงสัยในใจว่า ขยันแค่ไหน ถึงจะพอ?

บางคนเริ่มเชื่อว่า “ความรวย คงไม่ใช่ทางของเรา” ทั้งที่ความจริงแล้ว ไม่ใช่เพราะคุณไม่ขยัน แต่เพราะคุณยัง “คิดแบบเดิม” และใช้วิธีเดิม ๆ กับโลกที่เปลี่ยนไปหมดแล้ว

อยากรวย

ทำงานประจำฝ่ายการตลาด รายได้รวมเดือนละ 85,000 มีโอทีบ้าง จ๊อบเสริมบ้าง รายได้ไม่น้อย แต่ทุกสิ้นเดือนเขายังต้องหมุนเงิน บางเดือนต้องหยิบเงินแม่มาช่วยจ่ายหนี้ เขาไม่เคยเที่ยวหรู ไม่เล่นหุ้น ไม่ซื้อแบรนด์เนม ใช้ชีวิตเรียบง่ายสุด ๆ

“ผมไม่เข้าใจเลยว่าผมพลาดตรงไหน ผมขยันนะ ผมประหยัดนะ แต่ชีวิตไม่ไปไหนเลย”

เขาไม่รู้ว่าเขากำลังขยันอยู่ในกรอบคิดที่ปิดทุกทางเติบโต ขยันหาเงิน แต่ไม่กล้าวางแผน ขยันประหยัด แต่ไม่เข้าใจเรื่องเงินเฟ้อ ขยันทำงาน แต่ไม่รู้จักคำว่า “เงินทำงานแทนเรา”

ในปี 2568 หนี้ครัวเรือนไทยยังสูงถึง 88.4% ของ GDP

แม้ตัวเลขจะดู “ลดลง” แต่ความจริงคือมันลดเพราะธนาคาร “ปล่อยกู้น้อยลง” ไม่ใช่เพราะประชาชน “ใช้หนี้ได้มากขึ้น”

ในขณะเดียวกัน ธนาคารแห่งประเทศไทยเพิ่งผ่อนเกณฑ์การกู้บ้าน เพื่อกระตุ้นภาคอสังหา

แปลว่า คนจะกู้ได้ง่ายขึ้น แต่คำถามคือ… คุณพร้อมจะเป็นหนี้ยาว 30 ปีหรือยัง?

หรือแค่กำลัง “ดึงอนาคตมาใช้” เพราะไม่มีแผนทางการเงินที่มั่นคง

“คนจนทำงานเพื่อเงิน คนรวยให้เงินทำงานให้เขา” ประโยคนี้ไม่ใช่คำดูถูก แต่มันคือกระจก

คนจำนวนมากไม่ได้จนเพราะไม่ขยัน แต่จนเพราะใช้วิธีคิดของคนรุ่นก่อนในโลกที่มันไม่เหมือนเดิมอีกแล้ว

1. หยุดคิดว่า “เหนื่อยแล้วจะดีขึ้นเอง” ความเหนื่อยไม่เคยการันตีความสำเร็จ ถ้าหัวไม่เปลี่ยน เส้นทางไม่ขยับ

2. เปลี่ยนจากเก็บเงินไว้ในบัญชีออมทรัพย์ เป็นวางระบบให้เงินงอก ดอกเบี้ยออมทรัพย์อยู่ที่ประมาณ 0.25% ต่อปี เงินเฟ้ออยู่ที่ 2.8% คุณกำลังออมเงินในบัญชีที่ทำให้เงินด้อยค่าลงทุกวัน

3. เลิกหาเงินอย่างเดียว เริ่มวางแผนเก็บเงินให้ได้ เรียนรู้วิธีใช้ให้คุ้ม และหาทางงอกให้ทันเงินเฟ้อ

4. เรียนรู้พื้นฐานทางการเงินบ้าง ไม่ใช่แค่ทำงานเก่ง คุณไม่ต้องเป็นนักลงทุนมืออาชีพ แต่คุณควรเข้าใจความต่างระหว่างสินทรัพย์กับหนี้

5. หยุดใช้คำว่า “ไม่พร้อม” เป็นข้ออ้าง ถ้าคุณรอให้พร้อมทุกอย่างก่อนเริ่ม คุณจะไม่เริ่มอะไรเลย

6. หยุดเปรียบเทียบชีวิตกับคนอื่น แล้วถามตัวเองให้ชัดว่า “อยากมีชีวิตแบบไหน?”

7. หยุดเอาเงินในอนาคตมาใช้ในวันนี้ การผ่อนสิ่งที่ไม่จำเป็น คือการโยนภาระไปให้ตัวเองในอนาคต โดยไม่มีแผนว่าจะแบกมันยังไง

ถ้าระบบความคิดยังเหมือนเดิม

เงินเดือนที่เพิ่มจะไม่ช่วยอะไร ถ้าคุณยังใช้เงินแบบเดิม

ความพยายามทั้งหมดของคุณจะถูกกลืนไป ถ้าคุณยังไม่ยอมเปลี่ยนวิธีเดิน

แต่ถ้าคุณขยัน + คิดใหม่ = คุณมีโอกาสเปลี่ยนทั้งชีวิต

“อยากรวย ต้องขยันให้ถูกที่ เงินจะพุ่งมากกว่าที่คุณคิด”

“ชีวิตจะเปลี่ยน…เมื่อคุณกล้ายอมรับว่า วิธีคิดเดิมใช้ไม่ได้อีกต่อไปแล้ว”

คุณยังจะขยันแบบเดิมต่อไปอีกกี่ปี โดยไม่รู้ว่ามันพาไปที่ไหน?

คุณอาจไม่ต้องเลิกขยัน แต่คุณต้องเลิก “คิดว่าแค่ขยันก็พอ” เพราะในโลกที่เปลี่ยนเร็วขนาดนี้ คนที่รอด…คือคนที่กล้าเปลี่ยนวิธีคิดเร็วกว่าเดิมหนึ่งก้าวเสมอ

ปลดหนี้

แผนปฏิบัติการคืนอิสรภาพทางการเงิน ก้าวแรกสู่ความมั่งคั่ง… “หนี้ท่วมหัวแค่ไหน ก็เริ่มต้นใหม่ได้ครับ”

อย่าปล่อยให้ “หนี้” กัดกินชีวิตของคุณและคนในครอบครัว วางแผนการเงินใหม่ ให้มีเก็บ มีใช้ ไม่ต้องกังวลทุกสิ้นเดือน

หนังสือที่รวบรวมความรู้และแนวทางการจัดการหนี้แบบครบวงจร เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการก้าวข้ามความท้าทายทางการเงิน ด้วยเนื้อหาที่ครอบคลุมตั้งแต่การทำความเข้าใจหนี้ การตั้งเป้าหมายทางการเงิน การสร้างงบประมาณที่มีประสิทธิภาพ ไปจนถึงการลดหนี้ด้วยเทคนิคที่พิสูจน์แล้วว่าได้ผลจริง เพื่อให้คุณสามารถสร้างชีวิตที่มั่นคงทางการเงินได้อย่างยั่งยืน

Scroll to Top