Law

วันแล้ววันเล่า เรานั่งหน้าจอคอมพิวเตอร์ เปิดแฟ้มคดีหนาเตอะ พิมพ์สำนวนแบบเคร่งเครียด ตอบไลน์ลูกความตอนสามทุ่ม อ่านคำพิพากษาย้อนหลังสิบปีเพื่อหาจุดแตกต่างในประเด็นเดียว

เราอยู่ในกระบวนการที่เรียกว่า “ยุติธรรม” แต่ลึก ๆ เราเคยถามตัวเองไหมว่า…

เรากำลังทำสิ่งนี้เพื่ออะไร?

เพื่อเงิน? เพื่อความก้าวหน้า? เพื่ออุดมการณ์? เพื่อระบบที่ใหญ่กว่าเราหรือเพื่ออะไรสักอย่างที่ลึกกว่านั้น?

หรือสุดท้าย…เราทำเพราะไม่มีทางเลือก?

ในวันที่ข่าวปลอมกระจายเร็วกว่าความจริง ในวันที่คนบางคนมีเงินจ้างทนายสิบคน แต่คนอีกกลุ่มหนึ่งไม่มีแม้แต่คนช่วยเขียนคำร้อง ในวันที่เอกสารล้นโต๊ะจนไม่มีเวลาแม้แต่จะคิดว่า “เรากำลังเดินไปในทิศไหน”

ชีวิตของคนทำงานกฎหมายจึงเริ่มกลายเป็น… “ระบบงาน” มากกว่าความหมาย

เรากำลังกลายเป็น “ฟันเฟืองที่ไม่รู้ว่าตัวเองหมุนเพื่ออะไร”

Law

คำถามที่คนในวงการกฎหมายทั่วโลกกำลังตั้งก็คือ AI จะช่วยทำให้กระบวนการยุติธรรม “เข้าถึงง่ายขึ้น” หรือจะยิ่งทำให้คนธรรมดาห่างจากมันมากขึ้น?

คำถามนี้ไม่มีคำตอบตายตัว แต่มีหลายกรณีศึกษาที่น่าคิด

รัฐบาลพัฒนา “AI ผู้ช่วยผู้พิพากษา” สำหรับคดีเล็ก ๆ เพื่อช่วยเคลียร์คดีค้างและช่วยให้ประชาชนเข้าถึงกระบวนการยุติธรรมง่ายขึ้น (อ้างอิง: GovInsider, 2023)

บริษัทด้าน LegalTech อย่าง Casetext, DoNotPay, Harvey AI กำลังเปลี่ยนวงการกฎหมายแบบถอนราก ถอนโครงสร้าง

คำถามคือ…เราจะเอาอะไรเป็น “แก่นกลาง” ถ้าเทคโนโลยีเร็วขึ้นทุกวัน?

มือใหม่ในสายกฎหมายถาม : ถ้าระบบมันไม่ยุติธรรม แล้วเราจะทุ่มไปทำไม?

คำถามนี้เจ็บแสบ แต่จริง และผมไม่มีคำตอบแบบสวยหรูให้ เพราะใช่ครับ…ระบบนี้มีรูรั่ว มีอคติ มีความเหลื่อมล้ำ แต่สิ่งหนึ่งที่ยังไม่เปลี่ยน คือ “คุณค่าของคนที่ยังยืนหยัดในความถูกต้อง แม้ในระบบที่มีปัญหา”

เราไม่ได้ทำแค่ “แก้คดี” แต่เรากำลังเขียนประวัติศาสตร์ความยุติธรรมในประเทศนี้

คุณอาจไม่ได้เป็นผู้พิพากษาศาลสูงสุด คุณอาจไม่ได้มีชื่ออยู่บนหน้าหนังสือพิมพ์ แต่การเขียนสำนวนให้ชัดเจน การเลือกคำพูดในห้องพิจารณา การให้คำแนะนำกับลูกความที่ไม่รู้จะหันหน้าไปทางไหน

สิ่งเหล่านี้คือการ “ทำให้ระบบยุติธรรมมีชีวิต”

Law

โลกเปลี่ยนแล้ว ทำงานหนักอาจไม่พอ หากไม่ได้ทำงานอย่างฉลาด

ลองดูนักกฎหมายบางคนที่ใช้ AI ช่วย

วิเคราะห์ข้อกฎหมายได้เร็วกว่าเดิม 70%

มีเวลาเหลือไปสร้างบทความวิชาการ แชร์ความรู้ต่อ

จัดการเอกสารในระบบ Automation ให้ชีวิตไม่ติดกับงานจุกจิก

งานวิจัยของ Harvard Law School (2024) พบว่า นักกฎหมายที่ใช้เทคโนโลยีร่วมกับทักษะมนุษย์ มีความก้าวหน้าในอาชีพเร็วกว่าคนที่ทำแบบเดิมถึง 3 เท่า

ไม่ใช่คำถามที่จะตอบให้จบในบทความนี้ แต่ถ้าอยากลองตอบ…เริ่มจากถามตัวเองก่อนว่า:

เราทำเพื่ออะไรในวันแรกที่เข้าวงการนี้?

เรายังรู้สึกดีไหมเมื่อเห็นคนธรรมดาได้รับความยุติธรรมจากคำแนะนำของเรา?

ถ้าไม่มีใครเห็นสิ่งที่เราทำเลย เรายังอยากทำอยู่ไหม?

ถ้าคำตอบคือ “ใช่” นั่นแปลว่า คุณไม่ได้หลงทาง

Law

เรากำลังทำเพื่อคนที่ไม่มีเสียงในสังคม การรักษาความถูกต้องในวันที่คนลังเลจะยืนฝั่งไหน ความภูมิใจเล็ก ๆ ที่รู้ว่าเรายังทำงานด้วยหัวใจ ไม่ใช่แค่เงินเดือน และในวันที่ระบบมันเหนื่อย…เทคโนโลยีอาจไม่ได้มาแทนคุณ แต่มันอาจช่วยให้คุณ “กลับมามีแรง” ทำในสิ่งที่คุณรัก อย่างที่คุณเคยฝันไว้ในวันแรก

วันนี้คุณยังจำได้ไหมว่าทำไมคุณถึงเลือกทางนี้?

เคยอยากลาออกไหม? เคยรู้สึกไหมว่าไม่รู้จะเชื่ออะไรต่อดี?

มาเล่าให้เราฟังในคอมเมนต์นะครับ

เพราะในวันที่โลกเปลี่ยนไว เราอาจต้องยืนข้างกันมากกว่าเดิม และบางที…คำตอบของคำถามนี้ อาจไม่ได้อยู่ในตำรา แต่อยู่ในบทสนทนาระหว่างเรา

Law

เปลี่ยนงานหนักของบุคลากรในกระบวนการยุติธรรมให้เป็นงานง่าย เรียนรู้ AI สำหรับนักกฎหมายใน 4 ชั่วโมง

1. ลดเวลาทำงานซ้ำซากลง 80%
• ใช้ AI ตรวจเอกสารปริมาณมาก
• วิเคราะห์และสรุปข้อมูลในเวลาอันรวดเร็ว

2. ค้นหาคำพิพากษาและข้อกฎหมายในไม่กี่วินาที
• ไม่ต้องเสียเวลาค้นหาด้วยตัวเองอีกต่อไป AI จะช่วยค้นสิ่งที่คุณต้องการ

3. เพิ่มความแม่นยำและลดข้อผิดพลาด
• AI ช่วยตรวจสอบความเสี่ยงในเอกสารและข้อสัญญา

4. เริ่มใช้งานได้ทันที แม้ไม่มีพื้นฐานด้านเทคโนโลยี
• เราสอนทุกอย่างตั้งแต่เริ่มต้น คุณจะมั่นใจและใช้งานได้จริง

• ใช้ AI ทำงานเอกสารกฎหมายได้คล่องตัวกว่าเดิม

• เพิ่มความเร็ว และความแม่นยำ เช่น การค้นข้อมูล การตรวจเอกสาร หรือการร่างสัญญา

Scroll to Top