ทำไมบางคนยังไม่มีผลงาน แต่กลับน่าเชื่อถือกว่าคนที่มีชื่อเสียง?

น่าเชื่อถือ

มีอยู่ครั้งหนึ่งในงานสัมมนา เราเปิดเวทีให้คนฟังลุกขึ้นพูดได้

ชายคนหนึ่งลุกขึ้น เขาดูไม่มีอะไรน่าจดจำเป็นพิเศษ เสื้อเชิ้ตธรรมดา พูดก็ไม่เก่งนัก สะดุด ๆ อยู่บ้าง แต่พอเขาเริ่มเล่าเรื่องแม่ที่นั่งเย็บผ้าจนดึก เพื่อส่งเขาเรียนกฎหมาย

ทั้งห้อง…เงียบกริบ

ไม่มีใครรู้จักชื่อเขา

ไม่มีใครเคยแชร์โพสต์เขา

เขาไม่มีหนังสือ ไม่มี TikTok ไม่มี LinkedIn

แต่ทุกคน…เชื่อในสิ่งที่เขาพูด

บางคนมีผลงานเป็นตั้ง แต่ไม่มีใครฟัง

บางคนไม่มีแม้แต่โปรไฟล์…แต่กลับพูดเพียงประโยคเดียวแล้วโลกทั้งห้องตั้งใจ

ทำไม?

คนที่น่าเชื่อที่สุดในยุคนี้ ไม่ใช่คนที่ดังที่สุด ไม่ใช่คนที่พูดเก่งที่สุด แต่คือคนที่พูดความจริงได้…ในวันที่คนส่วนใหญ่ยังเลือกพูดสิ่งที่คนอยากฟัง

เรากำลังอยู่ในยุคที่โลกเบื่อ “คนขายตัวเอง” แต่หิว “คนจริงที่กล้าบอกว่าเขายังไม่สมบูรณ์”

มีคนเคยถามผมว่า “แล้วแบบนี้ คนไม่มีผลงานจะสู้คนที่มีชื่อเสียงได้ยังไง?”

ผมตอบทันทีว่า “ด้วยความจริง”

คนที่พูดจากตรงที่เขายืน ไม่ใช่จากเวทีที่เขาอยากขึ้น จะสื่อสารได้น่าเชื่อแบบไม่ต้องแต่ง

คนแบบนั้น…เราอยากฟัง

เวลาพูดถึง “อิทธิพล” คนมักนึกถึงเวทีใหญ่ ๆ

แต่จริง ๆ แล้ว คนธรรมดาก็มีอิทธิพลได้ ถ้าเขากล้าพูดสิ่งที่คนอื่น “คิดแต่ไม่กล้าพูด”

ลองนึกถึงเพื่อนคนหนึ่งที่พูดอะไรตรง ๆ กับคุณในวันที่คุณหลงทาง

เขาไม่มีตำแหน่ง ไม่มีชื่อเสียง แต่คุณยังจำคำพูดนั้นได้จนวันนี้

นั่นคืออิทธิพลจาก “ความจริงใจ” ไม่ใช่ความดัง

ชื่อเสียงอาจมาจากจังหวะ แต่ความน่าศรัทธาเชื่อถือมาจาก “เจตนา + ความสม่ำเสมอ”

คุณไม่ต้องเป็นใครเลยในวันนี้ แต่ถ้าคุณโพสต์สิ่งที่เชื่อ เขียนสิ่งที่เห็น แบ่งปันสิ่งที่ทำ อย่างต่อเนื่อง… วันหนึ่ง คนจะรอฟังคุณ โดยไม่ต้องบูสต์โพสต์แม้แต่บาทเดียว

Seth Godin บอกไว้ว่า “ความศรัทธา ไม่ได้เกิดจากยอดไลก์ แต่เกิดจากความไว้วางใจ”

คนที่ไม่มีชื่อเสียง แต่มีผู้คนศรัทธานั้น…น่าเชื่อกว่าคนที่มีชื่อแต่ไร้หัวใจ

คุณอาจยังไม่มีผลงาน คุณอาจยังไม่มีคนฟัง แต่คำถามคือ… “วันนี้คุณกำลังพูดจากที่ ‘คุณเป็น’ หรือจากที่ ‘คุณอยากให้เขาคิดว่าคุณเป็น’?”

ถ้าคุณพูดจากจุดที่คุณยืน โพสต์ในสิ่งที่คุณเชื่อ ตอบในสิ่งที่คุณรู้ ยอมรับในสิ่งที่คุณไม่รู้ คุณกำลังสร้างสะพานแห่งความน่าเชื่อถือ โดยไม่ต้องมีเวที

ในยุคที่ใคร ๆ ก็เป็นครีเอเตอร์ สิ่งที่ขาดไม่ใช่ “คอนเทนต์” แต่คือ “ความต่อเนื่อง + ความจริงใจ + ความกล้าเป็นมนุษย์ที่ไม่สมบูรณ์แบบ”

คนที่มีผลงานมากมาย…แต่ไม่เชื่อมกับใคร จะค่อย ๆ ถูกลืม

แต่คนที่ยังไม่มีอะไร…แต่สม่ำเสมอ และจริงใจ จะค่อย ๆ มีคนอยากเดินตาม

อย่าสร้างเพจเพื่อดัง แต่จงสร้างพื้นที่…เพื่อให้คนที่คล้ายคุณไม่รู้สึกโดดเดี่ยวอีกต่อไป

คนที่น่าเชื่อ คือคนที่ไม่แค่พูดดี แต่ฟังตัวเองเก่ง

เขาไม่รีบอธิบาย ไม่พยายามขัดแย้ง แต่เขาฟังจนเข้าใจ แล้วค่อยพูด

“บางครั้ง สิ่งที่ทำให้คุณน่าเชื่อ ไม่ใช่คำตอบของคุณ แต่คือวิธีที่คุณฟังคำถาม”

ลองฟังสิ…วันนี้คุณฟังตัวเองหรือยัง?

ผมเคยฟังเด็กฝึกงานคนหนึ่งพูดว่า

“หนูยังไม่มีอะไรเลย…หนูกลัวคนไม่เชื่อ”

แต่เขาเล่าเรื่องที่ผิดพลาดในงาน

แล้วพูดว่า “หนูไม่ได้เก่ง…แต่หนูเรียนรู้เร็วมากจากสิ่งที่พลาด”

ทันทีที่เขาพูด ทั้งห้อง…เชื่อ

ไม่ใช่เพราะเขาดูเก่ง แต่เพราะเขาดู “จริง”

คุณยังมี “โอกาสสร้างความน่าเชื่อถือจาก 0” โดยไม่ต้องกลัวว่าจะต้องเปลี่ยนแปลงเพื่อให้ใครรัก

เพราะคนที่น่าเชื่อจริง ๆ ไม่ได้สร้างภาพ แต่เขาสร้าง “สายสัมพันธ์” ผ่านทุกโพสต์ ทุกบทสนทนา ทุกบรรทัดของความเป็นมนุษย์

ชื่อเสียงคือ “การถูกเห็น”

แต่ความน่าศรัทธาในตัวตนคือ “การถูกเชื่อ”

โลกเต็มไปด้วยคนที่ถูกเห็น แต่ขาดคนที่ถูกฟังแล้ว “เชื่อในใจจริง”

คุณอาจยังไม่มีรางวัล ยังไม่มีเวที ยังไม่มีผู้ติดตาม แต่คุณมี “ความจริง” และโลกต้องการสิ่งนี้…มากกว่าที่เคยเป็นมา

สุดท้ายนี้ ถ้าวันนี้คุณรู้สึกว่า…

“ฉันยังไม่มีอะไรให้พูด”

“ฉันยังไม่ใช่ใคร”

“ฉันยังไม่พร้อม”

ผมอยากให้คุณ เขียน โพสต์ เล่า พูด ในแบบที่คุณเป็นอยู่จริง ๆ ตอนนี้ แบบไม่พยายามจะให้ใครประทับใจ เพราะความน่าเชื่อถือ…มักไม่เกิดจากสิ่งที่คนอยากฟัง แต่มาจากคนธรรมดาที่กล้าพูดเรื่องจริง

หลักสูตรออนไลน์ ครูพี่ม้อคคายตะขาบ สอนสร้างตัวตน ขายสินค้า หนังสือ หลักสูตรในแบรนด์ของท่าน โดยใช้ AI ช่วยแบบง่ายมาก ไม่มีพื้นฐานการตลาด ไม่มีพื้นฐาน AI เรียน และทำได้ทันที เหมาะสำหรับคนที่ต้องการปั้นตัวเองให้เป็น TOP 1% ที่ดังและรวย

หลังเรียนจบ คุณจะ…
✓ ใช้ AI ช่วยลดต้นทุน เพิ่มผลลัพธ์ได้ทันที
✓ สร้างทุกอย่างเองได้แบบมืออาชีพ ไม่ต้องจ้างใคร
✓ เหนือกว่าคู่แข่ง เพราะคุณเข้าใจการใช้ AI อย่างแท้จริง

มือใหม่ ไม่มีพื้นฐานมาก่อน เรียนจบแล้วสามารถใช้ AI ช่วยพลิกชีวิตและธุรกิจได้ทันที

Scroll to Top