โพสต์แบบไหน

โพสต์แบบไหน คนไม่รู้จักก็ยังอยากแชร์ แชร์แม้ไม่เคยรู้จักกัน

ช่วงแรกที่ผมทำเพจ ไม่มีคนตามครับ (ไม่นับญาติพี่น้องกับเพื่อนที่โดนบังคับกดไลก์ 555+)

แต่มีโพสต์หนึ่ง… อยู่ดี ๆ มีคนแชร์เยอะมาก ทั้งที่ตอนนั้นเพจผมมีคนตามอยู่ไม่ถึง 300 คน

ผมไม่ได้ซื้อแอด ไม่ได้แท็กเพจใหญ่ แต่โพสต์นั้น… “ไปได้เอง”

ผมเลยเริ่มนั่งไล่ดูว่าตอนนั้นโพสต์แบบไหน
– มันมีอะไรในโพสต์นั้น?
-ทำไมคนที่ “ไม่รู้จักผมเลย” ถึงยังอยากแชร์?

วันนี้ขอถอดบทเรียนให้ครบ ๆ ว่า “โพสต์แบบไหนกันแน่” ที่ทำให้ คนแปลกหน้า รู้สึกว่า

แชร์ไป = ช่วยคน
แชร์ไป = เท่
แชร์ไป = เป็นเราคนแรกที่กล้าพูด

โพสต์แบบไหน

1. โพสต์ที่ “พูดแทนใจ” คนเงียบ ๆ

บางคนไม่พูด ไม่กล้าโพสต์เอง แต่พอเจอข้อความที่ตรงกับ “สิ่งที่คิด แต่ไม่รู้จะพูดยังไง” เค้าจะแชร์ทันที เหมือนบอกว่า “ใช่เลย นี่แหละที่เราอยากพูด”

ตัวอย่าง : “เราไม่ได้อยากเก่งกว่าใคร… แค่ไม่อยากรู้สึกว่า ‘เรายังไม่พอ’ กับตัวเองทุกวัน”

คนที่กำลังรู้สึกแบบนั้น ไม่ต้องรู้จักคุณ แต่เขารู้ว่า…โพสต์นี้ เป็นเสียงของเขา

2. โพสต์ที่ “เป็นของขวัญ” ให้คนอื่นได้

บางโพสต์ไม่ได้เล่าเรื่องตัวเอง แต่เล่าเรื่องที่ใครอ่านก็รู้ว่า “เฮ้ย นี่เอาไปฝากเพื่อนได้” หรือ “แชร์ให้แฟนดูด่วนเลย”

โพสต์ที่ให้ “ของ” ไม่ใช่แค่ “มุมมอง” มักจะถูกแชร์ไปไกลกว่าที่คุณคิด

ตัวอย่าง : “รวมวิธีดูแลตัวเอง สำหรับคนที่ไม่เคยมีใครสอนให้รักตัวเอง”

แบบนี้ คนที่เห็นไม่ต้องรู้จักคุณ แต่เค้ารู้ว่า “ถ้าเพื่อนฉันได้อ่าน…น่าจะดี”

โพสต์แบบไหน

3. โพสต์ที่กล้าพูด “สิ่งที่คนอื่นไม่กล้าพูด”

ในโลกที่ทุกอย่างดูปลอดภัย ดูถูกต้องไปหมด โพสต์ที่กล้าพูด “เรื่องจริงที่คนรู้ แต่ไม่พูด” มักจะกระแทกใจคนแปลกหน้าได้ก่อนใคร

เพราะคนส่วนใหญ่เงียบ แต่คนแรกที่กล้าพูด จะถูกแชร์

ตัวอย่าง : “เราไม่ได้เบื่องานหรอก…เราแค่เหนื่อยกับการต้องเข้มแข็งทุกวัน โดยไม่มีใครรู้”

4. โพสต์ที่ “อ่านแล้วเห็นตัวเอง” ในเนื้อหา

ไม่ว่าใครก็ตาม ต่อให้ไม่รู้จักคุณ ถ้าเขาอ่านแล้วรู้สึกว่า…

“นี่มันฉันเลย”
“นี่มันชีวิตฉันเป๊ะ”
“โอ้โห ใครมาแอบดูในหัวฉัน”

เขาจะแชร์โพสต์นั้นโดยไม่ลังเล

โพสต์ที่ไม่ใช่ “ฉันเป็นใคร” แต่คือ “คุณเคยรู้สึกแบบนี้ไหม?” จะเข้าถึงคนที่ไม่รู้จักเรา ได้ไวมาก

5. โพสต์ที่ “ย่อยความรู้ยาก ๆ ให้กลายเป็นเรื่องง่าย ๆ”

โลกตอนนี้ไม่ได้ขาดคนฉลาด แต่ขาด “คนอธิบายเก่ง”

โพสต์ที่เอาความรู้ซับซ้อนมาเล่าให้คนธรรมดาเข้าใจ โดยไม่ทำให้รู้สึกโง่ มักถูกแชร์ เพราะใครก็อยากให้เพื่อนรู้เหมือนตัวเอง

ตัวอย่าง :
“วิตามิน 4 ตัวที่ควรพกติดกระเป๋า หลังอายุ 30”
“เข้าใจภาษีแบบไม่ต้องเรียนบัญชี: ฉบับคนมีรายได้เสริม”

6. โพสต์ที่ทำให้เราดูดีขึ้นในสายตาคนอื่น เมื่อแชร์

พูดง่าย ๆ คือ โพสต์ที่แชร์แล้ว “เท่” หรือ “ดูฉลาด” “ดูลึก” “ดูตื่นรู้”

อย่าเข้าใจผิดว่าโพสต์พวกนี้คือการอวด จริง ๆ แล้ว…มันคือการ “สร้างภาพดี ๆ ให้ตัวเองแบบเงียบ ๆ” (ซึ่งมนุษย์ทุกคนทำโดยธรรมชาติ)

ถ้าคุณเขียนโพสต์ที่แชร์แล้วคนรู้สึกว่า “แชร์แล้วฉันดูเป็นคนเข้าใจชีวิต” เขาจะแชร์เอง โดยที่ไม่ต้องขอ

โพสต์แบบไหน

7. โพสต์ที่ “ไม่ได้พูดว่าเรารู้เยอะ” แต่พูดว่า “เราเคยไม่รู้มาก่อน”

อันนี้สำคัญมากครับ คนที่ไม่รู้จักคุณ ไม่รู้ว่าคุณคือใคร แต่ถ้าคุณพูดด้วยน้ำเสียงที่ “ถ่อมตัว แต่จริงใจ” พวกเขาจะ “ไว้ใจ” และ “แชร์”

อย่าบอกว่า “เราสอน” ให้บอกว่า “เราเคยงง แล้วเราเจอทางแบบนี้”

แบบนี้ ใครก็อ่านได้ ใครก็แชร์ได้ เพราะมันไม่ใช่การ “ยกตัวเอง” แต่มันคือการ “ชวนคนอื่นเดินไปด้วยกัน”

8. โพสต์ที่ “ไม่มีคำตอบ แต่มีคำถามที่ดี”

มนุษย์แชร์โพสต์ที่ “ชี้ไปที่ใจ” มากกว่าโพสต์ที่ “ชี้ไปที่ปาก”

บางที โพสต์ที่แค่ถาม “เราใช้ชีวิตเพื่ออะไร?”

“ถ้าไม่มีใครจำชื่อเราได้เลย…เรายังมีตัวตนอยู่ไหม?”

มันจะถูกแชร์ เพราะมัน “กระทบใจ” มากกว่าคำตอบสำเร็จรูป

โพสต์แบบไหน

สรุปแบบโพสต์ที่แชร์ได้เลยทันที

➤ โพสต์ที่พูดแทนใจ

➤ โพสต์ที่ให้คนอื่นได้ใช้

➤ โพสต์ที่กล้าพูดของจริง

➤ โพสต์ที่ทำให้เห็นตัวเอง

➤ โพสต์ที่ย่อยสิ่งยาก

➤ โพสต์ที่แชร์แล้วดูดี (เงียบ ๆ)

➤ โพสต์ที่ไม่สอน แต่ชวนเดิน

➤ โพสต์ที่ไม่มีคำตอบ แต่ถามได้ตรงจุด

สุดท้าย… ต้องโพสต์แบบไหน

โพสต์แบบที่คนไม่รู้จักยังช่วยแชร์
ไม่ใช่โพสต์ที่ “ดัง”
แต่คือโพสต์ที่ “โดน”

ไม่ใช่โพสต์ที่ “อธิบายเก่ง”
แต่คือโพสต์ที่ “เข้าใจคน”

ถ้าเราอยากให้โพสต์ไปไกลกว่าคนที่รู้จักเรา เราต้องเขียนด้วยหัวใจที่ไม่มองว่า “เราคือคนเขียน” แต่ต้องเขียนเหมือน… “เราคือเพื่อนคนแรกที่กล้าพูดเรื่องนี้ เพื่อให้คนอื่นกล้าพูดตาม”

ลงชื่อ : ผม… คนที่เคยโพสต์ไปสามเดือน แล้วมีคนแชร์อยู่ 3 คน (รวมตัวเอง 1 คน)

แม้ไม่มีชื่อเสียง ไม่มีทีม และไม่ถนัดเทคโนโลยี ไม่เคยใช้ AI ก็ทำสำเร็จได้

5 วันเต็ม ที่จะพาคุณจาก 0 → สู่รายได้หลักล้าน

DAY 1 : ขุดจุดแข็ง สร้างแบรนด์ที่ทำเงิน
DAY 2 : เขียนหนังสือ พร้อมขายได้ทันที
DAY 3 : สร้างคอนเทนต์ทั้งจักรวาล (คอร์ส, Podcast, Ads)
DAY 4 : กลยุทธ์สร้างแฟน–สร้างยอดขาย โดยไม่ต้องขาย
DAY 5 : วางแผนธุรกิจ KOL รายได้หลักล้านต่อปี

Scroll to Top