
สูตรใหม่ของความสำเร็จ Soft Skill × AI Skill
1. โลกที่สมองมนุษย์อย่างเดียว…ไม่พออีกแล้ว
ในยุคก่อน การ “คิดได้ลึก” สำคัญกว่า “คิดได้เร็ว” เพราะโลกยังหมุนช้า ข้อมูลยังมาเป็นหย่อม ๆ และโอกาสยังรอให้คุณ “พร้อมก่อน” แต่ตอนนี้… โลกหมุนเร็วเหมือนคนกดปุ่ม Fast Forward ข้อมูลวิ่งเร็วกว่าไฟฟ้า ความเปลี่ยนแปลงไม่ได้ให้คุณ “เวลาเตรียมตัว” มันแค่ถามว่า
“คุณรอดได้ไหม ถ้าไม่ปรับตัววันนี้”
และนี่คือเหตุผลที่ผู้นำยุคใหม่ต้องไม่เลือกแค่อย่างใดอย่างหนึ่ง
แต่ต้องมีทั้ง Soft Skill และ AI Skill
2. Soft Skill ดีอย่างเดียว…ไม่ทันเกมแล้ว
ผู้นำหลายคนในยุคโควิดผ่านมา เริ่มตื่นรู้ว่า
“Empathy” คือทักษะที่ทีมต้องการ
“Communication” คือพลังในการฝ่าวิกฤต
“Resilience” คือจิตวิญญาณขององค์กร
ใช่ครับ… Soft Skill สำคัญมากกว่าที่เคย
แต่ลองนึกภาพดูนะครับว่า…
ถ้าคุณมีใจเข้าใจคน แต่ไม่รู้จักเครื่องมือใหม่
คุณอาจเข้าใจลูกน้อง แต่ไม่สามารถช่วยเขาลดเวลา-ลดแรง
คุณอาจสื่อสารดี แต่ยังต้องเหนื่อยนั่งทำทุกอย่างเอง
โลกยุคนี้ต้องการมากกว่านั้น

3. แล้ว AI Skill คืออะไร?
ไม่ใช่การเขียนโค้ด
ไม่ใช่การเข้าใจลึกเหมือนวิศวกร
ไม่ใช่การซื้อเครื่องจักรแพง ๆ
แต่คือความเข้าใจในการ “ใช้ AI” ให้เป็นผู้ช่วยในงานของคุณ
รู้ว่า AI ทำอะไรแทนได้
รู้ว่า AI ใช้เวลาเร็วแค่ไหน
รู้ว่าควรปล่อยให้ AI ทำส่วนไหน แล้วเก็บงานส่วนไหนไว้กับ “ความเป็นมนุษย์”
AI Skill คือการสั่งงาน AI อย่างมีชั้นเชิง ไม่ใช่แค่พิมพ์คำถาม… แต่พิมพ์คำถามที่ AI เข้าใจ “เจตนา” ของคุณ
4. เมื่อ Soft + AI ผสานกัน
เคสจริงจากลูกศิษย์ของผมคนหนึ่ง
เธอเป็นผู้จัดการฝ่ายบุคคล เมื่อก่อนต้องใช้เวลาเกือบ 3 ชั่วโมงต่อวันในการประมวลผลรายงาน ตรวจเอกสารพนักงาน ตอบอีเมล สรุปข้อมูลการลา
ผมให้เธอใช้ AI เป็นตัวช่วย สร้าง Dashboard ใช้ AI ช่วยเขียนอีเมล วิเคราะห์พฤติกรรมการลาแบบอัตโนมัติ แค่เดือนเดียว… เธอลดเวลางานซ้ำซากลงกว่า 60%
เวลา 3 ชั่วโมงที่เคยหมดไปกับการ “จัดการ” ถูกเปลี่ยนเป็นเวลาใน
“การสร้างความสัมพันธ์กับทีม”
“โค้ชคนในทีมให้เติบโต”
และ “วางระบบช่วยให้คนในองค์กรทำงานง่ายขึ้น”
นี่แหละครับ ผลลัพธ์ของการผสม Soft Skill + AI Skill อย่างลงตัว
5. ผู้นำที่พูดเก่ง แต่ไม่มีเครื่องมือ จะกลายเป็นแค่คนพูดดีแต่เหนื่อย
ผมเคยเห็นผู้นำที่พูดดีมากครับ สร้างแรงบันดาลใจได้สุดยอด ทีมรัก หัวหน้ารัก แต่วันหนึ่ง… เขาล้ม
เพราะไม่มีเวลาพอ
เพราะงานเยอะเกินไป
เพราะทีมไม่มีระบบ
เพราะไม่มีเครื่องมือช่วยคิด ช่วยวางแผน
ในทางกลับกัน ผมเห็นเจ้าของธุรกิจ SME ที่ไม่เก่งพูดเลย แต่ใช้ AI ทำการตลาด
ใช้ AI สร้างคอนเทนต์
ใช้ AI วิเคราะห์คู่แข่ง
ใช้ AI จัดระบบการเงิน
เขากลับ “มีเวลา” ไปฟังทีม
กลับ “ไม่ต้องวิ่ง” ไปทุกที่
กลับ “รู้ทัน” ธุรกิจแบบไม่ต้องเหนื่อย
และพอเขาเริ่มพัฒนา Soft Skill เพิ่ม เขากลายเป็นผู้นำที่ทั้ง “เข้าใจคน” และ “เก่งใช้ระบบ” ผลลัพธ์ชัดเจน องค์กรโต ทีมเหนื่อยน้อย ผู้นำไม่พัง

6. AI ไม่ทำให้คุณไร้มนุษยธรรม แต่ทำให้คุณได้ใช้ “ความเป็นมนุษย์” อย่างแท้จริง
AI ไม่สามารถสัมผัสอารมณ์คนในทีม
ไม่สามารถสร้างแรงบันดาลใจในห้องประชุม
ไม่สามารถ “เข้าใจความกลัว” ของลูกน้อง
แต่… AI สามารถเคลียร์งานหลังบ้านที่คุณไม่ควรต้องแบกไว้ และเมื่อคุณว่างจากงานที่กินพลัง คุณจะเหลือพลังไว้ให้ การฟังแบบลึก การให้คำแนะนำแบบละเอียด การสื่อสารแบบเห็นใจ การสร้างทีมแบบมนุษย์
7. ตัวอย่างง่าย ๆ ของการผสาน Soft Skill กับ AI Skill ที่คุณเริ่มได้ทันที
ลองนึกภาพตามนะครับ… ถ้าคุณเป็นหัวหน้าทีม คุณอาจเคยใช้เวลาเป็นชั่วโมงเพื่อเขียนอีเมลที่อธิบายเรื่องยาก ๆ ให้คนในทีมเข้าใจ
วันนี้…คุณยังคงต้องใช้ “Soft Skill” ด้านการสื่อสารอยู่ แต่แทนที่จะเขียนเองทั้งหมด คุณใช้ AI ช่วยย่อยประเด็นให้กระชับ เข้าใจง่าย แล้วคุณแค่ปรับคำเล็กน้อยให้ตรงโทนของคุณเอง
คุณยังใช้ “ใจ” ในการสื่อสาร แต่คุณประหยัด “เวลา” ไปได้ครึ่งหนึ่ง
ถ้าคุณเป็นโค้ชหรือผู้บริหาร คุณอาจต้องฟังเสียงจากทีมตลอด
วันนี้…คุณยังต้องมี “ทักษะการฟัง” ที่ลึกซึ้งอยู่ แต่ตอนประชุม คุณใช้ AI ถอดเสียง สรุปประเด็น ทำให้คุณไม่ต้องมัวแต่จด
คุณมีพื้นที่ “ฟังอย่างตั้งใจ” จริง ๆ
ถ้าคุณต้องคิดวิเคราะห์เพื่อวางกลยุทธ์ คุณยังคงใช้สมองมนุษย์ที่เต็มไปด้วยประสบการณ์และวิจารณญาณ แต่คุณให้ AI วิเคราะห์ข้อมูลตลาด สรุปแนวโน้ม สร้างภาพรวมจาก Big Data ภายในไม่กี่นาที
คุณไม่ได้ให้ AI ตัดสินใจแทน แต่คุณให้มัน “เตรียมข้อมูลดี ๆ” เพื่อให้คุณคิดได้ลึกขึ้น
หรือถ้าคุณเป็นเจ้าของกิจการที่ต้องบริหารทีม คุณอาจยังใช้ “ศิลปะของการบริหารคน” แต่วันนี้คุณใช้ AI ช่วยประมวลผลข้อมูลพนักงาน สร้างระบบประเมิน ช่วยมองเห็นปัญหาก่อนมันจะระเบิด
คุณยังต้องมี “หัวใจของผู้นำ” แต่คุณไม่จำเป็นต้อง “ตาบอดในความมืด” เพราะข้อมูลกระจัดกระจาย
และสุดท้าย ถ้าคุณต้องใช้ความคิดสร้างสรรค์ จะดีแค่ไหน…ถ้าคุณมี AI ช่วยเป็นเพื่อนระดมความคิด เสนอไอเดีย วางแนวทาง ให้คุณได้ “คิดไกลขึ้น” โดยไม่ต้องเริ่มจากศูนย์ทุกครั้ง
สิ่งเหล่านี้แหละครับ คือวิธีที่ “Soft Skill” กับ “AI Skill” ผสานกันอย่างลงตัว

8. โค้ชยุคใหม่ = โค้ชที่ใช้ AI เป็นผู้ช่วยที่ไม่เหนื่อย ไม่หลับ ไม่อารมณ์เสีย
ผมทำงานกับผู้บริหารหลายคน สิ่งที่พวกเขาอยากได้มากที่สุดไม่ใช่แค่ “วิธีการโค้ชทีม” แต่คือ “เครื่องมือที่ช่วยให้เขาไม่ต้องเหนื่อยเกินจำเป็น” ผมจึงสอนให้เขาใช้ AI เป็น “ผู้ช่วยโค้ช”
ให้ AI ช่วย
• วิเคราะห์รายงาน
• สรุปพฤติกรรมทีม
• วางไทม์ไลน์การพัฒนา
• ตั้งคำถามให้ทีมคิดลึก
• เขียนแบบประเมิน
• สร้างแผนพัฒนารายบุคคล
เพราะโค้ชที่ดี ไม่ใช่คนที่ทำทุกอย่าง แต่คือคนที่ ใช้เวลาอยู่กับคน ไม่ใช่จมอยู่กับ Excel
9. แล้วคุณล่ะ?
วันนี้คุณมี Soft Skill อะไรที่โดดเด่นที่สุด?
แล้วคุณใช้ AI ช่วยอะไรได้บ้าง?
ลองนั่งเขียนออกมาสัก 1 หน้า ว่าถ้า “คุณยังเป็นแบบเดิม” ไปอีก 1 ปี คุณจะเสียอะไร?
และถ้า “คุณพัฒนา AI Skill” ใน 30 วันนี้ คุณจะ “ได้อะไรคืนมา” บ้าง?
คำตอบอาจทำให้คุณเริ่มต้นการเปลี่ยนแปลงเร็วขึ้นกว่าที่คิดครับ
10. เพราะโลกไม่รอใคร แต่มันเปิดทางให้คนที่ ‘ผสมศาสตร์ใหม่’ เป็น
วันนี้ไม่ใช่ยุคของคนที่แค่ “เก่ง” แต่คือยุคของคนที่ เรียนรู้เร็ว ปรับตัวไว และ “ผสมทักษะเก่า + ทักษะใหม่” เป็น
Soft Skill ทำให้คุณเป็นผู้นำที่คนรัก
AI Skill ทำให้คุณเป็นผู้นำที่ “ไม่ล้า”
และเมื่อคุณมีทั้งสองอย่าง คุณจะไม่ใช่แค่ “คนที่ทำได้” แต่คือ “คนที่ไปไกลกว่าคนอื่น”
แล้วคุณล่ะครับ… วันนี้คุณใช้ AI Skill ร่วมกับ Soft Skill ด้านไหนแล้วบ้าง?
คอมเมนต์บอกผมใต้โพสต์นี้ หรือทัก Inbox มาคุยกันได้เลยครับ ว่าคุณอยากเริ่มจากตรงไหน
โลกนี้ไม่ต้องการคนที่เก่งไปหมด แต่มันให้พื้นที่กับคนที่ “ใช้ความเก่ง + เครื่องมือ” ได้อย่างชาญฉลาด

แนะนำหนังสือใหม่ท้ายบทความครับ
“Lead with Empathy, Think with AI”
ผู้เขียน : ดร. โธมัส แชนด์เลอร์
เล่มนี้คือการหลอมรวมศาสตร์ของการเป็นผู้นำแบบ “เห็นใจทีม”
พร้อมแนวทาง “ใช้ AI เป็นผู้ช่วยผู้นำ” อย่างเป็นระบบ
เหมาะกับทั้งเจ้าของธุรกิจ ผู้จัดการ ทีม HR และโค้ช
มีทั้งกรณีศึกษา Checklist ตัวอย่าง Prompt สำหรับการโค้ช และ Mindset ที่จะเปลี่ยนวิธีคิดของคุณไปตลอด
อยากเป็นผู้นำที่ไม่พังเพราะเหนื่อย เล่มนี้…ช่วยคุณได้มากกว่าที่คิด
บทความโดย
— ดร.ธนศักดิ์ วหาวิศาล

ปลดล็อกศักยภาพผู้นำยุค AI
เปลี่ยนหัวหน้าธรมดา ๆ ให้เป็นผู้นำที่องค์กรต้องการ เปลี่ยนวิสัยทัศน์ของคุณให้เป็นกลยุทธ์แห่งความสำเร็จ!
ทำไมผู้นำต้องเรียนรู้การใช้AI
✓ สร้างทีมที่แข็งแกร่งพร้อมรับการเปลี่ยนแปลง
✓ เพิ่มประสิทธิในการบริหารและตัดสินใจ
✓ พลิกเกมในตลาดได้ก่อน วางกลยุทธ์ล้ำหน้าคู่แข่ง
✓ ลดต้นทุน เพิ่มผลลัพธ์ กำจัดงานซ้ำซ้อนที่กินทรัพยากร
หนังสือ “AI For Leadership ทักษะของ CEO ยุคใหม่ผู้มีประสิทธิภาพระดับสูง” คือคัมภีร์สำหรับผู้นำยุคใหม่ ซึ่งจะช่วยให้คุณนำ AI มาผสมผสานกับการบริหารอย่างมีกลยุทธ์ เป็นตัวช่วยในการตัดสินใจ วางแผน และเพิ่มประสิทธิภาพให้กับทีมงาน เนื้อหาในเล่มจะช่วยให้คุณเข้าใจตั้งแต่พื้นฐานการประยุกต์ใช้ AI ในองค์กร ไปจนถึงกรณีศึกษาจริง เพื่อสร้างความได้เปรียบเชิงกลยุทธ์ในยุคดิจิทัล
• ติดตามข่าวสารช่องทางอื่น คลิก –> Facebook