
อาชีพอาจารย์ นักวิชาการ มั่นคงจริงหรือ? ถ้าคุณไม่มองหา Plan B ชีวิตจะเป็นอย่างไร
“เราถูกสอนให้หางานที่มั่นคง…
แต่ไม่มีใครบอกว่า มั่นคงแค่ไหนถึงจะพอ?”
คุณเป็นอาจารย์ นักวิชาการ คนที่ทำงานหนักเพื่อสร้างคนรุ่นใหม่ คุณมีผลงานวิจัย งานเขียน งานสอน เต็มแน่นในแต่ละภาคการศึกษา คุณมีความรู้มากมาย แต่เคยตั้งคำถามไหมว่า
“ถ้าวันหนึ่งระบบเปลี่ยนไป… แค่ความรู้จะพอให้คุณรอดหรือไม่?”
เราถูกปลูกฝังว่าอาชีพนี้มั่นคง แต่ทุกวันนี้โลกหมุนเร็วกว่าคำว่า ‘สถาบัน’ การศึกษาถูกตั้งคำถามจากภาคธุรกิจ จากตลาดแรงงาน และจาก AI
แล้วคุณล่ะ… มี Plan B หรือยัง?
วันนี้ผมอยากชวนคุณใช้กรอบความคิดของคนวางกลยุทธ์ Strategic Thinking ทั้ง 7 ข้อ มาเป็นกระจกสะท้อนอนาคตของอาชีพอาจารย์ เพื่อที่คุณจะได้สอนคนอื่นต่อไป… โดยไม่ลืมดูแลชีวิตตัวเองด้วย

1. Long Term Mindset คิดให้ไกลกว่าการขึ้นตำแหน่ง
คุณมีเป้าหมาย 3-5 ปีของตัวเองไหม (ที่ไม่ใช่แค่ตำแหน่งทางวิชาการ)? การทำผลงานเพื่อขอตำแหน่งคือเรื่องหนึ่ง แต่ชีวิตนอกเหนือจากระบบตำแหน่งคืออีกเรื่องใหญ่
คุณมีระบบสร้างรายได้อื่น ๆ ที่ไม่ขึ้นกับงบประมาณรัฐหรือมหาวิทยาลัยไหม?
คุณมีช่องทางสื่อสารความรู้ของตัวเองไปนอกห้องเรียนหรือเปล่า?
คุณมีความรู้เรื่องการตลาด ความเข้าใจเรื่องธุรกิจดิจิทัล เพื่อแปลงความรู้เป็นรายได้หรือยัง?
ความมั่นคงของคุณไม่ควรถูกผูกไว้กับตำแหน่งระดับใดระดับหนึ่งเท่านั้น มันควรถูกผูกกับ “ความสามารถในการปรับตัว” และ “การสร้างคุณค่าให้คนอื่นได้เสมอ”
“อนาคตที่ดี ไม่ได้เริ่มจากตำแหน่งที่สูง แต่จากระบบที่คุณสร้างขึ้นมาเอง”
2. Second Order Thinking เมื่อ AI เริ่มสอนแทนคุณได้
ถ้า AI สามารถออกแบบบทเรียนได้ใน 5 วินาที ถ้านักศึกษาเลือกเรียนจาก YouTube มากกว่าคุณ ถ้างบประมาณของคณะคุณลดลงทุกปี แล้วอะไรจะตามมา?
การคิดแบบ ‘ลำดับที่สอง’ คือการมองให้ไกลกว่าผลลัพธ์ตรงหน้า ไม่ใช่แค่ “ฉันยังมีงานอยู่” แต่ต้องคิดว่า “ระบบนี้ยังพอเลี้ยงฉันในอีก 10 ปีไหม?”
ลองถามตัวเองอีกครั้ง
- ถ้าคณะปิดตัว คุณจะไปอยู่ที่ไหน?
- ถ้าหลักสูตรถูกลดชั่วโมงเรียนลงครึ่งหนึ่ง คุณจะปรับตัวทันไหม?
- ถ้าห้องเรียนถูกแทนที่ด้วยแพลตฟอร์ม AI คุณจะยังมีบทบาทอยู่หรือไม่?
“ความมั่นคงไม่ใช่สิ่งที่มีอยู่ แต่คือสิ่งที่คุณต้องออกแบบล่วงหน้า”
3. Problem Solving ปัญหาที่แท้ไม่ใช่ ‘นักศึกษาน้อยลง’
ลองถามตัวเองแบบนักวิจัย
- ทำไมนักศึกษาถึงไม่สมัครเรียน?
- ทำไมคอร์สของคุณไม่มีคนลง?
- ทำไมแม้คุณมีความรู้ แต่กลับไม่ได้รับการยอมรับในวงกว้าง?
คำตอบอาจไม่ได้อยู่ที่คุณไม่เก่ง แต่อยู่ที่คุณยังไม่ส่งมอบความรู้ในรูปแบบที่โลกต้องการ
คุณอาจยังสอนอยู่ในวิธีที่เคยได้ผลเมื่อสิบปีก่อน แต่วันนี้ความสนใจของผู้เรียนเปลี่ยนเร็วกว่าเนื้อหาหลักสูตร
นักกลยุทธ์ไม่โทษผู้ฟัง แต่กลับไปตั้งคำถามว่า “ฉันกำลังตอบคำถามของคนยุคนี้อยู่หรือเปล่า?”
“ถ้าเราไม่แก้ปัญหาที่ราก ต่อให้สอนเก่งแค่ไหน คนก็ไม่ฟัง”

4. Force Multiplier อย่าทำงานหนักอยู่คนเดียว
คุณเหนื่อยไหม? เตรียนสอน ทำวิจัย เขียนบทความ ทำงานบริหาร ประชุมไม่หยุด คำถามคือ
งานเหล่านี้ขยายผลได้ไหม?
คุณมีระบบการสอนที่คนอื่นใช้ต่อได้หรือไม่?
คุณมีทีมผู้ช่วยหรือกลุ่มคนที่ต่อยอดแนวคิดคุณหรือยัง?
งานของคุณกลายเป็นรายได้ซ้ำได้หรือเปล่า?
ถ้าไม่… คุณอาจเป็น ‘นักวิชาการที่เก่ง’ แต่ไม่ใช่ ‘นักกลยุทธ์ที่อยู่รอด’
“คนฉลาดต้องสร้างระบบที่ทำให้ความรู้เดินหน้าโดยไม่ต้องเหนื่อยตลอดชีวิต”
5. Synthesis ความรู้ที่มาก ไม่เท่ากับการเข้าใจโลกจริง
คุณอ่าน paper มานับพัน แต่คุณสรุปอะไรให้โลกฟังแล้วบ้าง?
สังคมไม่ได้รอ ‘นักอ้างอิง’ แต่รอ ‘นักเชื่อมโยง’
คุณเชื่อมประเด็นวิชาการกับชีวิตคนทั่วไปได้ไหม?
คุณกล้าตั้งคำถามว่า ‘แล้วไงต่อ?’ กับทุกสิ่งที่คุณสอนหรือเปล่า?
ถ้าคุณเชื่อมโยงสิ่งที่เรียนรู้กับปัญหาจริงของโลกได้ คุณจะกลายเป็นอาจารย์ที่ไม่ได้แค่สอนในห้อง แต่มีอิทธิพลต่อสังคม
“ความรู้มีค่าก็ต่อเมื่อมันถูกเชื่อมโยงจนคนอื่นใช้ได้”

6. Storytelling ความรู้ดีแค่ไหน ถ้าเล่าไม่เป็น คนก็ไม่ฟัง
คุณมีช่อง YouTube หรือ Podcast ของตัวเองไหม?
คุณเคยลองเล่าเรื่องยาก ๆ ให้คนทั่วไปเข้าใจง่ายที่สุดหรือยัง?
คุณเขียนบทความที่ใครอ่านก็พยักหน้าได้หรือเปล่า?
นี่ไม่ใช่เรื่องของการตลาด แต่มันคือ ‘การขยายผล’
“อาจารย์ไม่จำเป็นต้องดัง แต่อาจารย์ที่ไม่มีคนฟัง จะมีอิทธิพลได้อย่างไร?”
7. Decision Making จะอยู่ต่อแบบเดิม หรือเริ่มออกแบบอนาคตใหม่?
นี่คือเวลาของการตัดสินใจ
จะอยู่ในระบบที่เดิม ๆ รอเงินเดือน หรือเริ่มสร้างรายได้ใหม่ ๆ?
จะสอนตามคำสั่ง หรือเริ่มออกแบบหลักสูตรของตัวเอง?
จะใช้เวลาทั้งชีวิตเขียน paper หรือเขียนบทเรียนให้คนข้างนอกเข้าใจ?
“คุณจะเป็นผู้รับบทในระบบเดิม หรือจะเป็นผู้เขียนบทใหม่ให้กับชีวิตตัวเอง?”

แค่คุณมีความรู้ ไม่ได้แปลว่าคุณรอด
ในวันที่โลกหมุนเร็ว อาชีพที่มั่นคง อาจกลายเป็นอาชีพที่ถูกทิ้งไว้ข้างหลัง ถ้าไม่ปรับ
ผมไม่ได้ชวนให้คุณลาออกจากระบบ แต่ชวนให้คุณสร้างระบบสำรองที่คุณออกแบบเองได้
คุณยังมีเวลา ยังมีโอกาส ยังมีศักยภาพ แค่ต้องเริ่ม “คิดอย่างนักวางกลยุทธ์”
1. คุณมีรายได้ที่ไม่พึ่งตำแหน่งหรือเงินเดือนแล้วหรือยัง?
2. ถ้ามหาวิทยาลัยยุบภาควิชาคุณ คุณจะยังยืนอยู่ได้ไหม?
3. ความรู้ของคุณเคยเปลี่ยนชีวิตคนที่อยู่นอกห้องเรียนได้หรือเปล่า?
เริ่มวาง Plan B วันนี้… เพื่อที่คุณจะไม่ต้องแก้แผนตอนมันสายเกินไป และหากคุณอ่านถึงตรงนี้แล้วรู้สึกว่าความรู้ของคุณควรเดินทางไกลกว่านี้ ลองตั้งคำถามสุดท้ายนี้กับตัวเอง
“คุณอยากเป็นแค่ชื่อบนวุฒิบัตรของใครสักคน… หรืออยากเป็นความเปลี่ยนแปลงในชีวิตเขา?”
หลักสูตรออนไลน์
สำหรับครู อาจารย์ นักวิชาการทุกแขนง

ใช้ AI เป็นผู้ช่วยเขียนตำราวิชาการ
• เรียนรู้เทคนิคการใช้ Al เขียนตำราวิชาการอย่างมีประสิทธิภาพ
• ออกแบบสารบัญและหัวข้อได้อย่างสมบูรณ์แบบ
• จัดการการอ้างอิงและหลีกเลี่ยงการลอกเลียนอย่างมืออาชีพ
• ลดระยะเวลาที่ใช้ในการเขียน เพิ่มคุณภาพเนื้อหาให้สูงขึ้น
ตำราของคุณจะกลายเป็นผลงานที่โดดเด่นในวงการวิชาการ
• ติดตามข่าวสารช่องทางอื่น คลิก –> 7D Academy