Multiple Intelligences คืออะไร? ความฉลาด 8 มิติ ของลูกพี่ในสำนักงานทนายความ
เคยสงสัยไหมว่าทำไม “ลูกพี่” ในสำนักงานทนายความของคุณ บางวันก็เก่งเวอร์เหมือนเทพเจ้า แต่บางวันกลับคุยกันไม่รู้เรื่อง?
บางทีเขาอาจวางแผนคดีได้ไว พูดจาคมกริบ วิเคราะห์ปัญหาขาดในพริบตา
แต่บางครั้งกลับไม่รับฟังทีม อธิบายอะไรซับซ้อนจนเหนื่อยตาม
ความจริงแล้ว…เขาอาจแค่ “ฉลาดคนละมิติ” กับคุณ
วันนี้ผมจะพาคุณไปรู้จักกับ ทฤษฎีความฉลาด 8 มิติ (Multiple Intelligences) ที่บอกว่ามนุษย์เราไม่ได้มีแค่ IQ อย่างเดียว เพราะแต่ละคนมีความถนัดเฉพาะตัวที่แตกต่างกัน
พร้อมทั้งชวนคุณมาดูว่า AI จะช่วยวิเคราะห์ทีม และพฤติกรรมในสำนักงานกฎหมายได้ยังไง เพื่อ “ถอดรหัสความฉลาด” ของลูกพี่และเพื่อนร่วมทีม ให้รู้ว่าใครถนัดอะไร ใครเหมาะกับงานแบบไหน จัดทีมให้ลงตัว ทำงานเข้าขา แก้ปัญหาในออฟฟิศได้ตรงจุด
ถ้าคุณเคยรู้สึกว่า ทีมทนายในออฟฟิศทำงานไม่ราบรื่น เพราะเข้าใจไม่ตรงกัน บทความนี้จะช่วยให้คุณมองเห็นจุดแข็ง – จุดอ่อนของทีมได้ชัดขึ้น
และหาวิธีทำงานร่วมกันได้ทุกฝ่าย
1. ทฤษฎี Multiple Intelligences คืออะไร?
Dr. Howard Gardner เคยบอกไว้ว่า โลกนี้ไม่ได้วัดกันแค่ IQ เพราะมนุษย์แต่ละคนมีความฉลาดหลากหลายรูปแบบ และไม่มีใครเหมือนกัน
ความอัจฉริยะ 8 มิติของมนุษย์คือ
1. Logical – Mathematical : คิดเป็นระบบ
2. Linguistic : เล่นคำ เก่งภาษา
3. Spatial : เห็นภาพในหัว ออกแบบเก่ง
4. Bodily – Kinesthetic : ร่างกายลื่นไหล ขยับคล่อง
5. Musical : จับจังหวะดนตรีได้ดี
6. Interpersonal : เข้าใจคนอื่น
7. Intrapersonal : เข้าใจตัวเอง
8. Naturalist : เข้าใจธรรมชาติ
ซึ่งในชีวิตการทำงาน…เราไม่ได้ต้องการคนเก่งแค่แบบเดียว แต่เราต้องการ “ทีมที่ฉลาดหลายมิติ” ต่างหาก
ลูกพี่ของคุณ…เก่งมิติไหน?
ลองนึกถึงลูกพี่ในทีมคุณตอนนี้…
พูดแล้วคนทั้งห้องเงียบ → Linguistic
ฟังแล้วรู้เลยใครโกหก → Interpersonal
วางโครงคดีจากเอกสารพันหน้าใน 3 นาที → Logical
ชอบเดินไป-มาเวลาคิดงาน → Bodily
เขียน Memo จนหัวหน้าศาลต้องขอ copy → Linguistic + Intrapersonal
ออกแบบแผนที่ข้อเท็จจริง สวยกว่ากราฟิก → Spatial
ทำคดีสิ่งแวดล้อมจนลูกความเชื่อ → Naturalist
ประสานคดีที่ต้องใช้ “หูฟังอารมณ์” ของคู่กรณี → Musical (จริง ๆ)
ใช่ครับ… ลูกพี่คุณอาจจะฉลาดมาก แค่ฉลาดไม่เหมือนคุณ
แล้ว AI เกี่ยวอะไร? AI เข้าใจความฉลาดแบบมนุษย์ได้ไหม?
AI อาจไม่มีหัวใจ… แต่วันนี้ AI เริ่ม “เข้าใจมนุษย์มากกว่าที่มนุษย์เข้าใจกันเอง”
- AI วิเคราะห์การใช้ภาษา → รู้ว่าใคร Linguistic
- AI วัดพฤติกรรมในระบบ → จับจังหวะคน Logical หรือ Interpersonal
- AI วิเคราะห์ Feedback → รู้ว่าใครทำงานแล้ว “กระทบใจคนอื่น”
ในอนาคต… AI จะเป็นเหมือนกล้องส่องอัจฉริยะ ช่วยให้เราวิเคราะห์จุดแข็ง – จุดอ่อนของทีมได้แม่นยำ ไม่ใช่เพื่อ “ตัดสินใคร” แต่เพื่อ “วางตำแหน่งให้เหมาะ”
เบื้องหลังลูกพี่ บางคนไม่ได้โหด แค่ฉลาดไม่เหมือนคุณ
บางทีลูกพี่ไม่ได้ “ไม่มี Empathy” แต่เขาอาจเป็นสาย Logical ล้วน ๆ เลยตอบคุณเหมือนโปรแกรมคำนวณ
บางทีลูกพี่ไม่ได้ “ขี้สงสัย” แต่เขาอาจมีมิติ Intrapersonal สูงมาก เลยตั้งคำถามกับทุกอย่าง…แม้แต่ความคิดของตัวเอง
และบางทีคุณไม่ได้ “ไม่เก่ง” คุณแค่เป็นสาย Musical หรือ Interpersonal ซึ่งมักถูกประเมินต่ำในวงการที่วัดด้วยตรรกะเท่านั้น
นี่คือโศกนาฏกรรมของสำนักงานหลายแห่ง ที่ยังใช้ “ไม้บรรทัดเส้นเดียววัดทุกคน”
ตัวอย่างจริง : ทนาย 3 แบบ 3 มิติ
1. ทนายสาย Logical
มองคดีเป็นสูตร คิดเร็ว พูดชัด แต่ทำงานกับลูกค้าไม่ได้
จนวันหนึ่งมีเลขามานั่งประชุมด้วยทุกครั้ง ลูกค้าเริ่มยิ้มออก…ยอดปิดคดีพุ่ง
2. ทนายสาย Intrapersonal
ไม่พูดเยอะ แต่จดละเอียด คนอื่นอาจมองว่าเฉื่อย แต่เวลาศาลถาม เขา “ยิงตรงจุด” จนทั้งทีมต้องอึ้ง
3. ทนายสาย Interpersonal
สนิทกับเจ้าหน้าที่ศาลทุกคน ช่วยคุยกับพยาน ช่วยดูแลลูกความ คนทั้งออฟฟิศสบายขึ้น เพราะมีเขาเป็น “บัฟเสริมมนุษย์สัมพันธ์”
ทีมที่เก่งจริง… ไม่ใช่ทีมที่มีแต่คนเก่ง แต่คือทีมที่มี “คนเก่งในหลายแบบ”
วิธีค้นหาอัจฉริยะของลูกพี่ (และของคุณ) ด้วย AI
AI ช่วยวิเคราะห์ความถนัดจาก
- Log การทำงาน เช่น เวลาเขียน–พิมพ์–ตอบลูกค้า
- พฤติกรรมการใช้ภาษา จาก Chat, Email
- แบบประเมิน MI (Multiple Intelligence) + NLP Tool
- การประชุมที่บันทึกเสียง–วิเคราะห์คำพูด
ตัวอย่าง Prompt ให้ AI
“จากข้อมูลแชตและเอกสารงานของคุณ A วิเคราะห์ว่าเขาน่าจะมีความถนัดด้านใดใน 8 มิติ Multiple Intelligence พร้อมเหตุผล และข้อเสนอแนะแนวทางการทำงานร่วมกับทีม”
คุณจะพบสิ่งที่ซ่อนอยู่… บางคนเก่งกว่าที่ตัวเองรู้ บางคนมีพลังที่ยังไม่ถูกใช้
4 วิธีใช้ AI เพื่อเสริมจุดแข็งของแต่ละมิติในสำนักงานกฎหมาย
1. Linguistic → ใช้ AI สรุปข้อมูล ให้ทนายสายนี้ “ปรับคำให้เข้าใจง่าย”
2. Logical → ใช้ AI ช่วยวิเคราะห์คำพิพากษา สร้าง Argument Map
3. Interpersonal → ใช้ AI วิเคราะห์อารมณ์จากข้อความลูกความ เพื่อให้คนนี้ช่วยประสาน
4. Intrapersonal → ให้ AI สร้าง Prompt เพื่อให้คนนี้ได้ Reflection ตัวเองก่อนวางกลยุทธ์
แต่ละมิติมี “ทางเข้า” ที่ต่างกัน AI ไม่ได้ทำให้ทุกคนเหมือนกัน แต่ทำให้ทุกคน “ใช้ของที่มีได้เต็มที่”
ไม่ใช่แค่เก่งมั้ย…แต่เก่งแบบไหน?
เวลาคุณดูใครสักคนในทีม เลิกถามว่า “เขาเก่งมั้ย?” แล้วลองถามว่า…
- เขาเก่งแบบไหน?
- เขาทำอะไรแล้ว “เป็นธรรมชาติ”?
- เขาเคย Flow ตอนทำอะไร?
- เขาเติมพลังจากอะไร?
เพราะบางคนไม่เก่งทุกอย่าง แต่ถ้าคุณให้เขาอยู่ในงานที่ตรงจริต… เขาจะเปล่งประกายแบบไม่ต้องพยายาม
เปลี่ยนการทำงานในออฟฟิศ จาก “ชนกัน” เป็น “เสริมกัน”
ทีมที่ดี…ไม่ใช่ทีมที่ไม่มีความต่าง แต่คือทีมที่ “เข้าใจความต่าง” แล้วดีไซน์ระบบให้เกื้อหนุนกัน
คนคิดช้า → อย่าเร่ง ให้เวลาเขาฟอร์ม
คนพูดเก่ง → ให้เป็นคน present
คนมองภาพใหญ่ → เป็นคนวางกลยุทธ์
คนคิดลึก → วิเคราะห์ข้อกฎหมายเจาะจง
และ AI จะช่วยทำหน้าที่เหมือน “กล้องจุลทรรศน์ของออฟฟิศ” ให้เรามองเห็นโครงสร้างภายในทีม…แบบที่เราไม่เคยเห็นมาก่อน
ลูกพี่คุณอาจจะโคตรฉลาด…แค่ฉลาดคนละมิติกับคุณ
สุดท้ายแล้ว… คุณอาจไม่ต้องเปลี่ยนทีม แค่ “เปลี่ยนมุมมอง”
ไม่ต้องบ่นว่าลูกพี่ไม่เข้าใจ แค่หาวิธี “ถอดรหัส” ความฉลาดของเขา
AI ไม่ได้มาแทนความเป็นมนุษย์ แต่มา “ขยายความเข้าใจระหว่างมนุษย์” และในโลกของกฎหมายที่มีความซับซ้อนทั้งคนและคดี ความเข้าใจ “แบบลึกแต่ไม่ตัดสิน” อาจเป็นทักษะที่ทรงพลังที่สุด
เพราะสุดท้าย… “เราอาจไม่ได้เกิดมาฉลาดทุกด้าน แต่ทุกคนมีของที่ซ่อนอยู่ รอวันปลดล็อกศักยภาพที่แท้จริงครับ”
ลองเริ่มที่ตัวคุณ… แล้วคุณจะเข้าใจลูกพี่ได้เอง
7D Smart Lawyer
Ai สำหรับนักกฎหมาย
เรียนรู้พื้นฐานสู่การใช้งานจริง
เปลี่ยนงานหนักของบุคลากรในกระบวนการยุติธรรมให้เป็นงานง่าย เรียนรู้ AI สำหรับนักกฎหมายใน 4 ชั่วโมง
สิ่งที่คุณจะได้รับจากหลักสูตรนี้
1. ลดเวลาทำงานซ้ำซากลง 80%
• ใช้ AI ตรวจเอกสารปริมาณมาก
• วิเคราะห์และสรุปข้อมูลในเวลาอันรวดเร็ว
2. ค้นหาคำพิพากษาและข้อกฎหมายในไม่กี่วินาที
• ไม่ต้องเสียเวลาค้นหาด้วยตัวเองอีกต่อไป AI จะช่วยค้นสิ่งที่คุณต้องการ
3. เพิ่มความแม่นยำและลดข้อผิดพลาด
• AI ช่วยตรวจสอบความเสี่ยงในเอกสารและข้อสัญญา
4. เริ่มใช้งานได้ทันที แม้ไม่มีพื้นฐานด้านเทคโนโลยี
• เราสอนทุกอย่างตั้งแต่เริ่มต้น คุณจะมั่นใจและใช้งานได้จริง
ผลลัพธ์ที่คุณจะได้จากหลักสูตร
• ใช้ AI ทำงานเอกสารกฎหมายได้คล่องตัวกว่าเดิม
• เพิ่มความเร็ว และความแม่นยำ เช่น การค้นข้อมูล การตรวจเอกสาร หรือการร่างสัญญา
• ติดตามข่าวสารช่องทางอื่น คลิก –> Facebook