ผมเคยเป็นคนนึงที่คิดว่า… “การหายใจ” เป็นเรื่องอัตโนมัติ ไม่ต้องเรียน ไม่ต้องคิด ไม่ต้องฝึก

จนวันนึง… เครียดแบบคาเฟอีนเต็มตัว นอนไม่หลับ หายใจสั้นเหมือนโดนหินทับหน้าอก เปิด YouTube ไปเรื่อย ๆ เจอคลิปนึงชื่อว่า “Breathe better, live better”

5 นาทีผ่านไป… ผมร้องอ๋อ
15 นาทีผ่านไป… ผมร้องโอ้โห
30 นาทีผ่านไป… ผมหายใจเป็นคนใหม่เลยครับ

วันนี้เลยอยากสรุปให้ฟังว่า “แค่รู้วิทยาศาสตร์ของการหายใจ” เราจะ “หายโง่” และ “หายเหนื่อย” ไปพร้อมกันได้ยังไง

เวลาผมหายใจสั้น (แบบไม่รู้ตัว)

สมองจะเข้าใจว่า… “อ้าว! ต้องวิ่งแล้วเหรอ? อันตรายแน่ ๆ”

แม้จริง ๆ แล้วผมนั่งอยู่ในห้องทำงาน เปิด Excel อยู่

นั่นแหละครับ…
แค่หายใจผิด ระบบประสาทก็เข้าใจผิด
แล้วก็ปล่อย Cortisol กับ Adrenaline ออกมาเต็มร่าง

ผลลัพธ์ = ใจสั่น เครียด ตึงทั้งตัว นอนไม่หลับ …ทั้งที่แค่มีงานเข้าเยอะหน่อย

วิทยาศาสตร์เรียกสิ่งนี้ว่า “การกระตุ้นระบบพาราซิมพาเทติก” (Parasympathetic Nervous System)

หรือถ้าเรียกแบบบ้าน ๆ คือ “ระบบพักผ่อน และฟื้นฟู”

พอผมลองหายใจเข้าลึก ๆ ช้า ๆ ทางจมูก แล้วผ่อนออกยาว ๆ

สมองจะได้รับสัญญาณว่า “เฮ้! ทุกอย่างโอเค ไม่ต้องหนีเสือแล้ว พักได้แล้ว”

คือเปลี่ยนจาก “Fight or Flight” → “Rest and Digest”

นักประสาทวิทยาบอกว่า สมองต้องการ “ออกซิเจน” ไปเลี้ยงอย่างต่อเนื่องเพื่อทำงานเต็มที่

แต่ถ้าเราหายใจตื้น = ออกซิเจนไปไม่ถึงสมองส่วนลึก
ผลคือ “คิดไม่ออก ตัดสินใจแย่ ใจร้อนโดยไม่มีเหตุผล”

ผมเคยลองเทสต์ตัวเอง
• ตอนหายใจสั้น → คิดงานได้ 1 บรรทัด
• พอฝึกหายใจดี → เขียนโพสต์นี้ได้ 2,000 คำเฉย

ผมเคยเป็นสาย “อ้าปากหายใจ” เพราะคิดว่ามันโล่งกว่า

แต่หนังสือ Breath ของ James Nestor บอกว่า “ปากมีไว้กิน จมูกมีไว้หายใจ”

การหายใจทางปาก = เสี่ยงต่อการติดเชื้อ ความดันสูง และนอนกรน

จมูกมี “เครื่องกรองอากาศจากธรรมชาติ”

มีไนตริกออกไซด์ ที่ช่วยให้หลอดเลือดขยาย และช่วยให้ระบบภูมิคุ้มกันทำงานดีขึ้น

ผมลองเปลี่ยนมา “หายใจทางจมูก” ตลอดทั้งวัน

ผ่านไป 7 วัน นอนหลับลึกขึ้น หัวโล่ง สมาธิดีขึ้นแบบงง ๆ

ผมเคยเข้าใจว่า การฝึกหายใจคือของโยคี หรือคนสายมู

แต่จริง ๆ แล้ว ทีมกีฬาระดับโลกใช้วิธีนี้ในการเพิ่ม “โฟกัส” ก่อนแข่ง

Box Breathing (4-4-4-4)
– หายใจเข้า 4 วินาที
– กลั้นไว้ 4 วินาที
– หายใจออก 4 วินาที
– พัก 4 วินาที

ทำ 3–5 รอบ ผมรู้สึกว่า สมองนิ่งขึ้น ใจไม่พุ่ง หายวอกแวก เหมือนเรา “กดปุ่มรีเซต” ระบบประสาทในตัว

ใครนอนไม่หลับ ผมอยากให้ลอง “หายใจนับจังหวะ” ก่อนนอน

ผมใช้สูตร 4-7-8 (ของ Dr. Andrew Weil)

– หายใจเข้า 4 วิ
– กลั้นหายใจ 7 วิ
– ผ่อนออกยาว ๆ 8 วิ

บางคืนผมทำไป 3 รอบก็หลับไปเลย (ตื่นเช้ามาอีกที…มือถือยังเปิดเพลงอยู่เลยครับ 555+)

ประโยคนี้ฟังดูแปลก แต่จริง เพราะคนส่วนใหญ่ “หายใจมากเกินไป” พูดง่าย ๆ คือ เอาอากาศเข้าเยอะ แต่ใช้ไม่หมด

หลักของ Buteyko Breathing บอกว่า “หายใจน้อยลง แต่ลึกขึ้น” จะช่วยให้ร่างกายดูดซึมออกซิเจนได้ดีกว่า

ผมเคยลองฝึก “หายใจน้อยลง” ตอนนั่งเฉย ๆ รู้สึกได้เลยว่า หัวใจเต้นช้าลง สมองนิ่งขึ้น ง่วงเร็วขึ้น

ไม่ต้องกลัวขาดอากาศครับ เราแค่ “เอาเข้าอย่างมีคุณภาพ”

เรื่องนี้โดนผมแรงมากครับ

การหายใจผิด ทำให้
– เครียดง่าย → ต้องซื้อของปลอบใจ
– นอนแย่ → ต้องกินกาแฟเยอะขึ้น
– ปวดหัว ปวดไหล่ → ต้องนวดบ่อยขึ้น
– สมาธิสั้น → ทำงานได้น้อยลง → รายได้หด

แค่หายใจผิด ชีวิตก็ “แพงขึ้น” โดยไม่รู้ตัว
พอผมหายใจดีขึ้น…ค่าใช้จ่ายบางอย่างมันลดลงเฉย ๆ

Scroll to Top