“ทำงานเหมือนเป็ด” เป็นคำชมหรือคำด่ากันแน่?
ก่อนอื่นเลยเมื่อนึกไปถึงเป็ดก็คงจะนึกไปถึงสัตว์ปีกชนิดหนึ่งที่จะเรียกว่าเป็นสัตว์บกก็เห็นลอยอยู่ในในน้ำ แต่จะเรียกว่าเป็นสัตว์น้ำก็เห็นว่าบินได้ หรือต่อให้เป็นสัตว์ปีกก็เป็นอะไรที่มากกว่านั้นให้ได้แปลกใจอยู่ทุกครั้งที่เห็น ฉะนั้นแล้วพฤติกรรมเหล่านี้จึงถูกนำมาเปรียบเทียบกับการทำงานที่มีความหลากหลาย หรือคนคนเดียวที่สามารถทำหลาย ๆ อย่างได้ในคราวเดียวกัน หรือที่เรียกกันว่า “มนุษย์เป็ด”
ในบางครั้งคำว่ามนุษย์เป็ดก็มักจะถูกนำมาเรียกเพื่อเสียดสีคนที่ทำงานได้ลากหลายแต่ก็ไปไม่สุดสักทาง และเมื่อเป็นแบบนั้นก็ทำให้คนที่ถูกเรียกว่าเป็นเป็ดไม่ค่อยพอใจสักเท่าไหร่เมื่อถูกเรียกแบบนั้น แต่ทว่าเมื่อมองอีกมุมหนึ่งกลับพบว่า..ก็ไม่ใช่ทุกคนที่จะสามารถทำงานหลาย ๆ อย่างพร้อม ๆ กันได้นี่นา ดังนั้นการเป็นมนุษย์เป็ดจึงไม่ใช่แค่ข้อเสีย แต่ในเวลาเดียวกันนั้นก็นับว่าเป็นพรสวรรค์เช่นเดียวกัน และนอกจากคำว่าเป็ดที่ดูจะไม่เข้าท่าแล้วคนกลุ่มนี้ก็ยังได้นิยามใหม่ว่า “คนทำงานแบบ มัลติทาสกิ้ง”
ไม่รู้ว่ามีใครเคยได้ยินคำนี้หรือเปล่า “ไม่ต้องเก่งมาก แต่ต้องรู้รอบ” ซึ่งก็เป็นการอธิบายได้เป็นอย่างดีว่าการที่จะทำอะไรสักอย่างให้ดีไม่จำเป็นที่จะต้องมีทักษะด้านใดด้านหนึ่งที่เป็นเลิศ แต่เป็นการเข้าใจในสิ่งที่ตัวเองกำลังทำว่ามีจุดประสงค์หรือเป้าหมายไปในทิศทางไหน และข้ามผ่านไปด้วยวิธีการใด ซึ่งงานรับเหมาก่อสร้างเองก็ต้องการคนที่รอบรู้มากกว่าคนที่ทำเก่งแค่ด้านเดียวเช่นกัน
ลองนึกภาพเล่น ๆ ดูสิว่าหากเจ้าของบริษัทรับเหมาก่อสร้างมีความเชี่ยวชาญแค่ในเรื่องของการก่อสร้าง วางฐานราก ขึ้นโครงสร้างของตัวอาคาร แล้วงานส่วนที่เหลือใครจะเป็นคนดำเนินการแทนล่ะ?
ไหนจะงานบัญชี ไหนจะเรื่องภาษี
มันคงไม่ใช่เรื่องง่าย ๆ ที่จะต้องหาคนมาทำหน้าที่ตรงนี้แทน โดยเฉพาะกับผู้รับเหมารายย่อยที่มีกำลังคนอยู่เพียงแค่ไม่กี่คน ถ้าสุดท้ายแล้วแค่ขาดความรู้ในเรื่องของภาษีแล้วจะเป็นยังไงเมื่อถูกสรรพากรตามมาเช็กบิลย้อนหลัง เมื่อถึงตอนนั้นความเก่งและความสามารถที่มีอยู่เพียงแค่เรื่องเดียวจะสร้างผลลัพธ์ที่คุ้มค่าให้มากน้อยแค่ไหน หรือจะต้องจ่ายมากกว่าที่จะได้รับเสียอีก
เอาล่ะ…ต่อให้การเป็นมนุษย์เป็ดหรือเป็นคนทำงานแบบมัลติทาสกิ้ง จะเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นได้แค่กับบางคนแต่ก็ใช่ว่าเรื่องแบบนี้จะฝึกฝนกันไม่ได้ ถ้าอยากรู้ว่าต้องทำยังไงคงต้องเริ่มที่อันดับแรก…
ในบางครั้งก็ต้องเผชิญกับเสียงที่ผ่านแว่ว ๆ เข้ามาในหูว่าจริง ๆ แล้วการเป็นคนทำงานแบบมัลติทาสกิ้ง ก็คือข้ออ้างของคนที่ค้นหาตัวเองไม่เจอ แน่นอนล่ะว่ามันคงจะสั่นคลอนความมั่นใจได้มมากทีเดียว แต่ทว่าแท้จริงแล้วต่อให้ไม่เก่งเลยสักด้านก็ยังรู้ว่าอะไรเป็นอะไร ซึ่งมันก็ดีกว่าการที่ไม่รู้อะไรเลยจริงไหม?
คนเรามักจะเกิดการเรียนรู้จากสิ่งใหม่ ๆ อยู่เสมอจึงไม่ใช่เรื่องแปลกหากว่าวันใดวันหนึ่งจะมีเรื่องที่ทำให้เก่งขึ้นได้มากกว่าหนึ่งอย่าง เมื่อวานอาจจะเป็นคนที่มีความสามารถในด้านการแบ่งงวดงานจาก BOQ แต่วันนี้ได้มีโอกาสที่จะเข้าไปเรียนในคอร์สออนไลน์เรื่องของภาษีผู้รับเหมาก็ทำให้รู้เรื่องอื่น ๆ เพิ่มเติมขึ้นมาอีกหนึ่งอย่าง ลองคิดดูสิว่าหากมีการเรียนรู้เรื่องราวใหม่ ๆ อยู่เสมอจะทำให้ความสามารถในการทำงานเพิ่มขึ้นอีกเป็นกี่เท่าตัว และมันดีหรือแย่กว่าการที่ทำงานได้เพียงแค่อย่างเดียวกันล่ะ
อย่างที่ทราบกันดีว่าปัญหาหน้างานของผู้รับเหมาก่อสร้างไม่ได้มีแค่เรื่องของการก่อสร้าง และไม่มีได้เพียงแค่เรื่องเดียวเรื่องเดิม แต่ยังเป็นเรื่องใหม่ ๆ กับคนใหม่ ๆ ให้เห็นกันอยู่เสมอ บ้างก็เป็นเจ้าหน้าที่จากหน่วยงานรัฐ บ้างก็เป็นเจ้าหน้าที่จากแบงก์ ยังไม่รวมคนที่ต้องทำงานด้วยกันอย่างใกล้ชิดทั้งผู้ว่าจ้าง ร้านขายวัสดุก่อสร้าง หรือแม้แต่ตัวของทีมงานของตัวเองก็ตาม ฉะนั้นแล้วการมีความรู้ความเข้าใจในเรื่องที่หลากหลายเกี่ยวกับบุคคลที่กล่าวมาข้างต้น อย่างเช่น สรรพากร สำนักงานบัญชี หากมีความรู้ในเรื่องเหล่านั้นแม้ไม่ได้เก่งมากแต่ก็จะสามารถหาต้นสายปลายเหตุหรือวิธีการแก้ปัญหาเบื้องต้นได้เร็วกว่าคนที่ไม่รู้เรื่องเหล่านี้เสียด้วยซ้ำ
สุดท้ายแล้วการเป็นมนุษย์เป็ดก็ไม่ใช่เรื่องที่แย่เสียทีเดียวหากได้มองเห็นคุณค่าจากความรู้ในด้านอื่น ๆ ที่แม้จะไม่ได้เก่งมากที่สุดจนกลายมาเป็นความถนัดของตัวเองแต่ก็เป็นส่วนหนึ่งที่จะเข้ามาช่วยผลักดันจุดที่เป็นข้อดีของตัวเองให้มีความชัดเจนมากขึ้น หรือเกิดเป็นไอเดียและความคิดสร้างสรรค์ที่หลากหลายโดยเฉพาะกับงานที่ต้องมีการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลาตามยุคสมัยอย่างงานรับเหมาก่อสร้าง และที่มากไปกว่าการเป็นมนุษย์เป็ดอาจจะเป็นหนึ่งในจุดเปลี่ยนที่ทำให้ใครอีกหลายต่อหลายคนสามารถค้นหาตัวตนของตัวเองได้ดีขึ้นเมื่อได้ลองทำสิ่งใหม่ ๆ เรียนรู้ที่จะออกจากความถนัดหรือสิ่งเดิม ๆ และเมื่อถึงตอนนั้นก็จะรู้ว่า…การเป็นมนุษย์เป็ดก็ไม่ได้แย่อย่างที่คิด