คงจะเกิดคำถามขึ้นมาอีกครั้งว่าการถมดินก็ต้องมาพร้อมกับค่าใช้จ่ายซึ่งอาจเรียกได้ว่าเป็นการเพิ่มต้นทุนให้กับที่ดินแปลงนั้นเพิ่มขึ้นไปอีก แต่ในทางตรงกันข้ามนี่กลับเป็นข้อดีอีกอย่างหนึ่งที่จะสามารถปรับปรุงสภาพของที่ดินเปล่าให้มีความพร้อมสำหรับการลงทุนขั้นต่อไปได้ง่ายขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการขายหรือการก่อสร้างก็ตาม

ในขณะเดียวกันที่ดินบางแปลงก็อาจจะมีปัจจัยอื่น ๆ ที่เข้ามาเป็นส่วนประกอบที่ทำให้การขายนั้นยากขึ้นและราคาไม่ได้อย่างที่หวังโดยเฉพาะที่ดินที่อยู่ต่ำกว่าระดับพื้นถนน คนซื้อก็มักจะมาพร้อมกับความกังวลที่ว่าหากเข้าสู่ฤดูฝนอาจจะเกิดน้ำท่วมได้ แต่หลายต่อหลายครั้งก็พบว่าปัญหาดังกล่าวนี้สามารถแก้ไขได้ด้วยการถมดินเพื่อปรับระดับหน้าดินและยกระดับพื้นดินให้สูงขึ้นซึ่งถือเป็นการดันมูลค่าของที่ดินจากที่น่าจะขายไม่ได้ราคามาเป็นที่ดินที่พร้อมสำหรับการขายได้

นอกจากนี้การถมดินยังเป็นการเพิ่มโอกาสในการขายให้กับที่ดินแปลงนั้น ๆ อีกเป็นเท่าตัวด้วยเหตุผลที่ว่ามีความพร้อมสำหรับการลงทุนขั้นต่อไปมากกว่า โดยเฉพาะที่ดินสำหรับการสร้างสิ่งปลูกสร้างเพื่อพักอาศัย ซึ่งก่อนการสร้างสิ่งปลูกสร้างจะต้องมีการเตรียมหน้าดินก่อนซึ่งใช้เวลาค่อนข้างมาก แต่เมื่อได้ที่ดินที่มีการถมหน้าดินเรียบร้อยแล้วจะเป็นการร่นระยะเวลาและขั้นตอนในส่วนนั้นลงทำให้โอกาสที่กลุ่มนักพัฒนาอสังหาริมทรัพย์หรือคนที่สร้างบ้านขายเห็นโอกาสในการซื้อที่ดินแปลงนี้มีมากกว่าที่ดินเปล่าที่จะต้องเข้าไปพัฒนาด้วยตนเอง

แต่…

ปัญหาใหญ่ของการถมดินที่พบเจอกันได้บ่อย ๆ คือถมแล้วแต่ดินเซ็ทตัวก็ทำให้พื้นยุบต่ำลงจนเกิดเป็นแอ่งให้น้ำท่วมขัง แต่ถ้าหากถมสูงเกินไปก็กลับกลายเป็นว่าเจ้าของที่ดินต้องจมทุนเสียเอง ฉะนั้นแล้วควรจะถมดินระดับไหนถึงพอดีแบบที่เรียกได้ว่าไม่จมทั้งที่ ไม่จมทั้งทุน