ในภาษาอังกฤษมีประโยคหนึ่งกล่าวเอาไว้ว่า “You need to have as much folding space as you have dryers”
หรือ “คุณต้องมีพื้นที่เอาไว้พับผ้าขนาดพอ ๆ กับขนาดพื้นที่ที่เครื่องอบผ้าในร้านของคุณมีรวมกัน”
Quote ดังกล่าวเป็นของสมาคมร้านเครื่องซักผ้าหยอดเหรียญแห่งสหรัฐฯ (Coin Laundry Association) ที่บอกว่า หากคุณอยากรู้ว่าเมื่อเปิดร้านและนำเครื่องมาลงแล้ว จะต้องใช้พื้นที่เท่าไหร่นำมาวางโต๊ะพับผ้า
ในธุรกิจซักรีด นอกจากคนที่สนใจจะสามารถเลือกรูปแบบการทำธุรกิจได้แล้ว ทั้งการซื้อแฟรนไชส์มาเปิด หรือจะเปิดทำเองก็มีทั้งร้านซักอบสองอย่าง และร้านซักอบรีดแบบครบวงจร อีกหนึ่งสิ่งที่มีรูปแบบแตกต่างกันคือ ขนาดของร้าน
เวลาที่เราเดินไปสำรวจร้านตามที่ต่าง ๆ เราก็จะเห็นว่าแต่ละร้านมีขนาดไม่เท่ากัน ร้านที่เป็นแฟรนไชส์ดูแล้วเหมือนจะใหญ่กว่าร้านซักอบรีดทั่วไปที่ทำกันเอง จึงเป็นคำถามที่เกิดขึ้นมาว่า ถ้าเราเปิดร้าน เราสามารถใช้พื้นที่ขนาดเดียวกับร้านที่เป็นแฟรนไชส์ได้เลยหรือเปล่า?
เรามจะขอพาดูขนาดของร้านซักที่แฟรนไชส์กัน
ขนาดร้านซักอบของแฟรนไชส์
ร้านที่แฟรนไชส์แท้จริงแล้วก็ไม่ได้มีพื้นที่ขนาดเดียวกันทุกสาขา แต่พวกเขามีการกำหนดพื้นที่เอาไว้แล้วว่าร้านขนาดไหนใช้เครื่องจักรกี่ตัว ยกตัวอย่างแรกคือแฟรนไชส์ Otteri ที่มีแพ็คเกจให้เลือก 2 แพ็คเกจด้วยกัน ได้แก่
1. แพ็คเกจ M ใช้พื้นที่ขนาด 40-45 ตร.ม.
2. แพ็คเกจ L ใช้พื้นที่ขนาด 65 ตร.ม. ขึ้นไป
ส่วนอีกแฟรนไชส์คือ Wonder Wash โดยแฟรนไชส์นี้มีแพ็คเกจให้คุณนำไปเปิดได้ 3 แพ็คเกจ และมีการระบุจำนวนเครื่องที่ใช้ไว้เลย ได้แก่
1. แพ็คเกจ S ประกอบด้วย เครื่องซัก 4 เครื่อง กับเครื่องอบ 2 เครื่อง ใช้พื้นที่ขนาด 32 ตร.ม.
2. แพ็คเกจ M ประกอบด้วย เครื่องซัก 5 เครื่อง กับเครื่องอบ 4 เครื่อง ใช้พื้นที่ขนาด 40-48 ตร.ม.
3. แพ็คเกจ L ประกอบด้วย เครื่องซัก 7 เครื่อง กับเครื่องอบ 6 เครื่อง ใช้พื้นที่ขนาด 60-90 ตร.ม.
ดังนั้น จะเห็นว่าขนาดพื้นที่ๆ เราสามารถนำไปใช้ได้นับเฉพาะตัวร้านอย่างเดียวในกรณีที่จะเปิดเป็นร้านซักอบเหมือนแฟรนไชส์ ก็สามารถเริ่มตั้งแต่พื้นที่ขนาด 30 ตร.ม. เป็นต้นไป
ขนาดร้านซักอบรีดทั่วไป
ทีนี้มาว่ากันที่ร้านซักอบรีดทั่วไป ซึ่งความแตกต่างที่เห็นได้ชัดเจนคือ เราไม่ได้มีแค่เครื่องซักกับอบ และไม่ได้มีพื้นที่เอาไว้ให้ลูกค้านั่งรอ แต่สิ่งที่เราต้องมีคือ พื้นที่เอาไว้ตากผ้า รีดผ้า พร้อมกับพื้นที่จัดเก็บผ้าที่ทำความสะอาดเรียบร้อย
หากถามถึงขนาดที่เปิดให้บริการ จากการศึกษาข้อมูลร้านที่เปิดให้ผู้ที่สนใจเข้าไปทำกิจการต่อตามเว็บไซต์ ให้เลยพบว่า พื้นที่ในการเปิดร้านสามารถทำได้ตั้งแต่ห้องขนาดเล็ก 24.5 ตร.ม. เป็นต้นไป ที่ดำเนินการโดยคนคนเดียว ไม่ต้องจ้างคนมาดูแล
ดังนั้น หากจะบอกว่าเราสามารถใช้พื้นที่ร้านซักอบรีดขนาดเดียวกันกับร้านที่เป็นแฟรนไชส์เลยก็ว่าได้ เพียงแต่เราต้องจัดสรรพื้นที่ภายในให้ดี เพราะในร้านจำเป็นต้องมีทางเดิน พื้นที่ตั้งโต๊ะรีดผ้า พื้นที่วางราวตากผ้า พื้นที่พับผ้า และชั้นเก็บผ้าที่ผ่านการรีดมาแล้วพร้อมส่งคืนลูกค้า รวมไปถึงอุปกรณ์อย่างอื่น
หลายร้านเลือกที่จะใช้พื้นที่หน้าร้านมาวางราวตากผ้า หรือถ้าใครมีพื้นที่หน้าร้านเหลือก็สามารถหาป้ายโฆษณาร้านมาวางเอาไว้ด้านหน้าได้ ส่วนการจะเปิดเล็กหรือใหญ่ก็ขึ้นอยู่กับความต้องการของเราและทำเลที่ตั้งว่าจะมีลูกค้ามาใช้บริการมากแค่ไหน